สอบสวนทราบว่า
ตู้เซฟดังกล่าวเป็นของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) สาขาท่าแซะ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพัก สภ.ท่าแซะ ประมาณ 500 เมตร ได้ถูกคนร้ายโจรกรรมไปเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา ภายในตู้เซฟมีเงินสดจากผู้ใช้ บริการที่นำมาจ่ายค่าโทรศัพท์ 121,198.75 บาท และบัตรเติมเงินโทรศัพท์อีก 100,000 บาท โดยหลังจากที่บริษัทปิดให้บริการในเวลา 16.30 น. วันที่ 8 พ.ย. พนักงานได้นำเงินสดทั้งหมดเข้าเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟ เพื่อจะนำไปเข้าบัญชีฝากธนาคารในวันรุ่งขึ้น แต่ในคืนวันเดียวกันกลับถูกคนร้ายงัดบริษัทเข้าไปโจรกรรมตู้เซฟ ยกขึ้นรถปิกอัพไปงัดเอาทรัพย์สินแล้วทิ้งตู้เซฟไว้ริมถนนในพื้นที่ อ.เมืองชุมพร ดังกล่าว
ต่อมา พ.ต.ท.ภักดิ์ จันทร์ดอน รอง ผกก.ป.สภ. ท่าแซะ เดินทางไปรับตู้เซฟของกลางนำกลับไปตรวจสอบ พร้อมเปิดเผยว่า
ช่วงเวลา 03.30 น. วันที่ 9 พ.ย. พ.ต.ต. มนัส หมุนวงศ์ สารวัตรเวร สภ.ท่าแซะ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากผู้อ้างตัวเป็นพลเมืองดีว่ามีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น โดยคนร้ายนำเด็กเล็กไปโยนทิ้งกลางถนนให้รถชนตายใกล้ปั๊มน้ำมัน ปตท.สามดาวปิโตรเลียม ถนนเพชรเกษม ต.ทรัพย์อนันต์ ห่างจากโรงพักประมาณ 3 กม. จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ปรากฏว่าไม่มีเหตุการณ์ ดังกล่าวเกิดขึ้น
กระทั่งเวลา 04.00 น.
ขณะนำกำลังกลับเข้าโรงพัก ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายบุกเข้าไปโจรกรรมตู้เซฟภายในสำนักงานบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) สาขาท่าแซะ ไปตรวจสอบพบว่า กลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ได้งัดประตูสำนักงานบริษัทเข้าไปยกตู้เซฟขึ้นรถปิกอัพหลบหนีไป คาดว่าเป็นแผนการของคนร้ายที่ออกอุบายโทรศัพท์เข้าไปแจ้งที่ 191 ล่อลวงตำรวจไปตรวจสอบเหตุฆาตกรรมเด็ก ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ทางทิศเหนือ เพื่อถ่วงเวลาบุกเข้าไปโจรกรรมตู้เซฟแล้วขับรถเผ่นหนีไปทางทิศใต้ในพื้นที่ อ.เมืองชุมพร
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า
คนร้ายอาจเป็นคนใน หรือบุคคลที่รู้การเคลื่อนไหวภายในสำนักงานของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) สาขาท่าแซะ เป็นอย่างดี โดยทราบว่ามีผู้ใช้ บริการมาจ่ายเงินค่าโทรศัพท์จำนวนมาก เมื่อถึงเวลาปิดทำการจะนำเงินสดทั้งหมดไปเก็บในตู้เซฟเพื่อเตรียมนำไปฝากธนาคารในวันรุ่งขึ้น นอกจากนี้ ที่บริษัทก็ไม่มียามรักษาความปลอดภัยด้วย ตำรวจจะได้สืบสวนหาเบาะแสตามล่าตัวแก๊งโจรแสบรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป