´เณรน้อย´ จ๋อย บาตรครอบติดหัว

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า มีเณรเล่นซนนำบาตรใส่ข้าวมาครอบศีรษะตัวเองเกิดติดคาไม่สามารถนำออกมาได้ เหตุเกิดภายในวัดกู่ม่านมงคลชัย ริมถนนสายสันกำแพง-ดอยสะเก็ด ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ

บริเวณใต้ถุนกุฏิเจ้าอาวาส พบพระครูปลัดวีรศักดิ์ อคติจิตโต เจ้าอาวาส พร้อมพระเณรในวัดกำลังหาทางนำบาตรใส่ข้าวออกจากศีรษะของสามเณรปราการ ไชยมุก อายุ 13 ปี นร.ชั้น ม. 1 โรงเรียนบ้านป่ายาง อ.ดอยสะเก็ด ที่นั่งหน้าซีดเหงื่อแตกท่วมตัวอยู่บนเก้าอี้ แม้ว่าจะพยายาม ดึงและดันตัวบาตรอยู่นานร่วม 30 นาที ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลุดออกมาจากศีรษะของสามเณรปราการได้ กลับยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับสามเณรปราการมากยิ่งขึ้น ทางพระครูปลัดวีรศักดิ์จึงตัดสินใจให้คณะกรรมการของวัดพาสามเณรปราการไปส่งที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อ ให้แพทย์ช่วยเหลือนำบาตรออกจากศีรษะให้

ทั้งนี้ พระครูปลัดวีรศักดิ์กล่าวว่า สามเณรปราการเป็น 1 ในกลุ่ม นร.กว่า 100 คน ที่สมัครใจบวชในโครงการสามเณรภาคฤดูร้อนประจำปี 2549 เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา และมีกำหนดลาสิกขาในวันที่ 6 พ.ค.นี้ เมื่อช่วงเช้า เวลาประมาณ 06.00 น. ได้เคาะระฆังปลุกให้ขึ้นมาเตรียมตัวออกบิณฑบาตในหมู่บ้าน หลังจากรออยู่นานก็ไม่เห็นสามเณรปราการออกมาจากกุฏิ จึงเข้าไปตาม พบว่านั่งร้องไห้อยู่ในกุฏิเพราะบาตรติดคาศีรษะนำออกมาไม่ได้ สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ระหว่างที่จะหยิบบาตรออกมา เกิดนึกสนุกนำบาตรใส่ข้าวมาครอบศีรษะตัวเองตามประสาเด็กที่เล่นซุกซน จนกระทั่งกลายเป็นเรื่องขึ้นมา

ต่อมา เวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ที่ห้องฉุกเฉิน รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ทางแพทย์และพยาบาลได้ลงมือตรวจอาการของสามเณรปราการ พบว่าตัวบาตรใส่ข้าวติดอยู่ระหว่างขมับทั้งสองข้างไม่สามารถดึงออกมาได้โดยตรง แม้จะใช้เจลหล่อลื่นช่วยก็ไม่ได้ผล จึงประสานให้นายธงชัย สมศักดิ์บุญ นายช่างเทคนิค 5 หัวหน้าหมวดโยธา รพ. มหาราชนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายดวงแก้ว ผงขาว และ นายวราวุฒิ วงศ์โควรรณ ซึ่งเป็นช่างเชื่อมโลหะนำเครื่องมือมาช่วยเหลือ โดยใช้คีมตัดเหล็กค่อยๆตัดขอบบาตรใส่ข้าวบริเวณเหนือกกหูทั้งสองข้าง ก่อนจะใช้คีมถ่างปากบาตรให้กว้างขึ้นจนกระทั่งสามารถนำบาตรใส่ข้าวออกจากศีรษะของสามเณรปราการได้สำเร็จหลังติดคาอยู่นานเกือบ 4 ชม. ท่ามกลางเสียงปรบมือให้กำลังใจจากคนรอบข้าง จากนั้นทางคณะกรรมการของวัดได้รีบพาสามเณรปราการเดินทางกลับวัด โดยสามเณรปราการมีสีหน้าที่สดชื่นขึ้นจนเห็นได้ชัด