เตือนเวียดนามเห่อด.ช.-ขาดด.ญ.

เอเอฟพีรายงานวันที่ 1 พ.ย. ว่า ค่านิยมของสังคมเวียดนามที่ครอบครัวต้องมีลูกชาย ทำให้เกิดปรากฏการณ์ขาดลูกสาว

สัดส่วนเด็กชายต่อเด็กหญิงของเวียดนามห่างไกลกัน แบบเดียวกับแนวโน้มในประเทศจีนและอินเดีย คือ สัดส่วนเด็กชายต่อเด็กหญิงคิดเป็น 110 ต่อ 100 คน และบางจังหวัดสูงถึง 120 ต่อ 100 คน ขณะที่ค่าเฉลี่ยโลกอยู่ในระดับ 105 ต่อ 100

ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรของเวียดนามกล่าวว่า

ปรากฏการณ์ขาดลูกสาวในสังคมมีแนวโน้มจะรุนแรงยิ่งขึ้นในปีหมูทอง เพราะคนเชื่อว่าเป็นช่วงเวลาเสริมดวงที่จะมีลูกชาย ค่านิยมดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาทำแท้งตามมา เพราะเมื่อสามีภรรยารู้ว่าลูกที่จะเกิดมาเป็นลูกสาวจึงไปเอาออก

แม้ว่าเวียดนามมีกฎหมายครอบครัวตั้งแต่ 50 กว่าปีก่อน ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ แต่ค่านิยมดั้งเดิมยังไม่สลายไป

สินค้าเด็กหรือแม้แต่ของเล่นต่างทำโฆษณาออกมาเป็นภาพของเด็กชาย ส่วนกฎหมายที่บัญญัติในปี 2546 ห้ามเลือกเพศลูกก็ไม่ได้มีผลมากนัก คู่รักทั่วไปนิยมให้แพทย์ทำอัลตราซาวด์เพื่อดูเพศลูก นอกจากนี้หากภรรยาคนใดมีลูกชายให้ครอบครัวนี้จะถือเป็นการยกสถานะของตนเองไปด้วย ในช่วงเวลาที่ท้องลูกชายจะมีแต่คนเอาอกเอาใจ ขณะที่ค่านิยมของคนในสังคม ฝ่ายชายได้เปรียบทุกด้าน ไม่ว่าเป็นผู้สืบทอดวงศ์ตระกูล ได้รับมรดกบ้านและที่ดิน

ในรายงานประชากรล่าสุดของสหประชาชาติ เตือนว่า สถานการณ์ด้านประชากรของเวียดนามน่าเป็นห่วงมาก

เพราะมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะไม่สมดุลระหว่างเด็กชายและหญิงในสังคม ดาเนียล เบแลงเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญชาวแคนาดาที่ศึกษาในเวียดนาม กล่าวว่า ผู้หญิงถูกกดดันมากเมื่อตกอยู่ในความต้องการที่ปะทะกันระหว่างการมีลูกชายและต้องมีลูกน้อย คล้ายกับที่จีนมีนโยบายมีลูกคนเดียว