เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 1 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสหภาพแรงงานรถไฟฯสามารถเจรจาตกลงข้อเรียกร้องกับบอร์ดการรถไฟฯ ได้แล้ว
จึงประกาศเลิกนัดหยุดงาน และให้พนักงานทุกคนที่ชุมนุมประท้วงกลับไปทำหน้าที่ตามปกติ โดยที่สถานีรถไฟหัวลำโพง รถไฟที่ออกวิ่งเป็นขบวนแรกคือขบวนรถไฟดีเซลราง ขบวนที่ ช.379 วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-หัวตะเข้ ออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงเมื่อเวลา 04.15 น. โดยขบวนดังกล่าวรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางต่อไปต่างประเทศ ตามด้วยขบวนรถไฟดีเซลราง ขบวนที่ 303 วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-ลพบุรี ออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงเมื่อเวลา 04.20 น. ส่วนขบวนรถไฟขาเข้าเที่ยวแรกเป็นรถด่วนขบวนที่ 70 วิ่งระหว่างหนองคาย-กรุงเทพฯ ถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงในเวลา 06.25 น.
นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน (ซีเอฟโอ) การรถไฟฯ เปิดเผยว่า
จากการประเมินเบื้องต้นผลของการหยุดเดินรถไฟเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นการคืนเงินค่าตั๋วโดยสาร 5,296,543 บาท ค่าขนถ่ายผู้โดยสารที่ตกค้างตามสถานีต่างๆ 571,100 บาท ส่วนผลกระทบจากการหยุดเดินขบวนรถสินค้านั้น ทำให้สูญเสียรายได้จากค่าระวางสินค้าต่อขบวน 4,587,219 บาท รวม 10,454,862 บาท
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า
เรื่องของการรถไฟฯ อยู่ที่การพูดคุยทำความเข้าใจกันระหว่างผู้บริหารของการรถไฟฯ กับเจ้าหน้าที่เพื่อหาจุดที่มีความพอดี ตนมีความเชื่อมั่นว่าการพูดคุยทำความเข้าใจกันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด หาจุดที่พอดีและลงตัว ถ้าเราตั้งใจที่จะช่วยกันก็ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่าจะมีหลักประกันอย่างไรว่าประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบขึ้นมาอีก นายกฯกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลเตรียมการในส่วนที่จะลดความเสี่ยง และเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 ต.ค.นั้นเกิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยไม่ทราบมาก่อน แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นเราก็หาทางป้องกันและแก้ไข เรื่องเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ก็ต้องอาศัยการทำความเข้าใจกัน
รฟ.สไตรก์เจ๊งกว่า10ล.-เปิดวิ่งปกติแล้ว
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าข้อเรียกร้องของสหภาพการรถไฟฯ สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สายพันธมิตรแสดงว่ามีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยใช่หรือไม่
นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจได้ เช่นเรื่องข้อตกลงระหว่างไทย-ญี่ปุ่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่อาจจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนทางการเมืองซึ่งไม่มีปัญหา เราสามารถทำความเข้าใจกันได้ กระทรวงคมนาคม ร.ฟ.ท.ต้องทำความเข้าใจกันว่าเราจะหาทางแก้ไขปัญหาอย่างไร และทำไมต้องมีการปรับปรุงแก้ไขพ.ร.บ.การรถไฟ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่นั้นต้องบอกว่าทุกเรื่องเกี่ยวพันกันหมด ไม่ว่าจะเป็นทหาร เศรษฐกิจ การเมืองหรือสังคม แต่ทำอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง
เมื่อถามว่าแสดงว่ามีการเมืองอยู่เบื้องหลังใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ในชีวิตของเราต้องมองในมุมมองที่กว้าง มองในทุกๆ ส่วนแล้วนำมาประกอบการพิจารณา
ด้านนายสุวิทย์ รัตนจินดา นายกสมาคมผู้รับจ้างจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมาย และไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีกเนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ และบริษัทลูกค้าเจ้าของสินค้าอาจได้รับความเสียหายและอาจฟ้องร้องเรียกร้องเงินชดเชยกรณีที่ส่งสินค้าล่าช้า หรือกรณีที่สินค้าเกิดความเสียหาย ในฐานะที่เป็นนายกสมาคมจะหารือกับสมาชิกบริษัทที่เป็นลูกค้าของการรถไฟฯ โดยจะทำหนังสือชี้แจงความเสียหายที่เกิดขึ้นมาให้การรถไฟฯ ได้รับรู้และเอกชนจะต้องเรียกเงินชดเชยดังกล่าวจากการรถไฟฯ โดยเฉพาะสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจฯ ที่หยุดงานและหยุดเดินรถโดยไม่บอกล่วงหน้าและไม่กำหนดระยะเวลาที่แน่นอน แสดงให้เห็นว่าเป็นการเรียกร้องที่ไม่เป็นมืออาชีพไม่มีความเป็นสากลเพราะผู้โดยสารและผู้ประกอบการไม่ได้รู้เรื่องด้วย