จากกรณีสำนักงานเขตคลองสานขุดพบท่อนซุงโบราณมีอายุกว่า 100 ปี สมัยรัชกาลที่ 4 บริเวณติดกับป้อมป้องปัจจามิตร
ขณะขุดก่อสร้างอาคารสำนักงานเขตหลังใหม่ โดยได้แจ้งไปยังกรมศิลปากร และได้สั่งระงับการขุดชั่วคราว เพื่อให้นักโบราณคดีตรวจสอบนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ต.ค. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. และนายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผอ.สำนักโบราณคดี กรมศิลปากร เดินทางตรวจสอบท่อนซุงที่ขุดพบ ที่สำนักงานเขตคลองสาน
นายวีระกล่าวว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานเขตคลองสานว่า
จำนวนท่อนซุงที่ขุดพบทั้งหมดมีจำนวน 98 ท่อน จึงสั่งการให้กรมศิลปากรบันทึกจำนวนท่อนซุง พร้อมทั้งถ่ายภาพท่อนซุงดังกล่าวเอาไว้เป็นหลักฐานแล้วสั่งห้ามเคลื่อนย้ายท่อนซุงทั้งหมด เนื่องจากจะให้ กรมป่าไม้ตรวจสอบเนื้อไม้ว่าเป็นไม้ชนิดใดอีกครั้ง รวมทั้งกระทรวงวัฒนธรรมจะส่งนักโบราณคดี และทีมงาน เข้ามาดำเนินการเป็นคณะทำงานขุดเพิ่มเติม เนื่องจากป้อมป้องปัจจามิตร เป็นเพียงป้อมปืนเดียวที่เหลือ 1 ใน 4 ส่วนของป้อมที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 มีลักษณะคล้ายป้อมวิไชยประสิทธิ์ ที่ตั้งอยู่ บริเวณกองทัพเรือ หลังจากนั้นกรมศิลปากรก็จะนำไปอนุรักษ์โดยวิธีทางวิทยาศาสตร์ต่อไป
นายวีระกล่าวต่อว่า จากการหารือกับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. และสำนักงานเขตคลองสานถึงแนวทางการดำเนินการจัดการกับท่อนซุงทั้งหมดและการก่อสร้างสำนักงานเขตคลองสาน
เห็นตรงกันว่าจะมีการขุดค้นท่อนซุงเพื่อศึกษาวิศวกรรมของการวางรากฐานป้อมโบราณ ที่ประเทศไทยยังไม่เคยศึกษามาก่อน และในอนาคตจะมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ วิศวกรรมโบราณการวางรากฐานของป้อม เพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ จัดเป็นรูปแบบอาคารห้องใต้ดิน แสดงเรื่องราวของป้อมโบราณ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงรัตนโกสินทร์ ส่วนด้านบนจะเป็นที่ตั้งอาคารสำนักงานเขตหลังใหม่ โดยจะปรับรูปแบบอาคารให้เชื่อมโยงกับป้อมป้องปัจจามิตรด้วย