ทรงรู้พระองค์ดีขึ้น พระพี่นาง ขยับพระเพลาขวาได้

ความคืบหน้าพระอาการประชวรของสมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราช นครินทร์

ที่คณะแพทย์ถวายการรักษาและยังคงเฝ้าติดตาม พระอาการอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดนั้น ต่อมา เมื่อวันที่ 28 ต.ค. สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราช นครินทร์ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 4 ความว่า วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้า กัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รายงานว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเคลื่อนไหวพระหัตถ์และพระกร ขวาได้มากขึ้น ทรงขยับพระเพลาข้างขวาได้บ้าง ทรงรู้ พระองค์ดีขึ้น  และทรงบริหารพระวรกายตามแบบแผนกายภาพบำบัดได้ดี ในการถวายตรวจพระสมองติดตามผลการรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กพบว่า มีพระอาการสมองบวมบ้างเล็กน้อย คณะแพทย์คงถวายการรักษาทางพระโอสถ ทางกายภาพบำบัดและเฝ้าติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน 


สำหรับการลงนามถวายพระพรของพสกนิกรที่ศาลาศิริราช 100 ปี รพ.ศิริราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

นอกจากประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมีบุคคลสำคัญและข้าราชบริพาร ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เดินทางมาถวายความจงรักภักดี ร่วมลงนามถวายพระพรกันตลอดวัน โดยนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ในฐานะตัวแทน พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้นำข้อความที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พิมพ์มาในกระดาษมาลงนามถวายพระพร  สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ โดยข้อความถวายพระพรระบุว่า ขอกราบพระราชทานกราบทูลฝ่าพระบาท ข้าพระพุทธเจ้าในนามของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ขอกราบอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย โปรดประทานพรให้ใต้ฝ่าพระบาทมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
 

ขณะเดียวกัน เหล่าข้าราชบริพารในวังเลอดิส ได้ นำภาพพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ

ในชุดฉลองพระองค์แจ็กเกต คณะแพทยศาสตร์ศิริราช สีเขียวพระมาลาสีแดง ด้านหลังมีเนื้อเพลง “เจ้าฟ้าสุดบูชา” มามอบให้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง จำนวน 5 หมื่นภาพ เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนที่มาลงนามถวายพระพร ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่มาลงนามถวาย พระพรมาต่อแถวรับภาพพระฉายาลักษณ์กันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีภาคเอกชนนำภาพพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งปฏิทินพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวงที่ทรงฉายพร้อมสมเด็จย่า  และสมเด็จพระพี่นางมาร่วมแจกเพื่อให้ประชาชนที่มาลงนามถวายพระพร ได้ภาพมงคลกลับไปบูชากันอย่างทั่วถึง



กระทั่งเวลา 13.30 น. คณะข้าหลวงในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ อาทิ ท่านผู้หญิงวิวรรณ เศรษฐบุตร ท่านผู้หญิงอิศรา บุรณศิริ ฯลฯ ได้มาลงนามถวายพระพร

จากนั้นคณะนักเรียนจากโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สาขา วัดแจ้งศิริสัมพันธ์  จ.นนทบุรี  นำโดยพระครูสังฆรักษ์ พศวีร์ธีรปัญโญ อาจารย์ใหญ่ นำนักเรียนจำนวน 30 คน มานั่งสมาธิที่หน้าพระราชานุสาวรีย์สมเด็จย่า เป็นเวลา 15 นาที ทั้งนี้ พระครูสังฆรักษ์พศวีร์ธีรปัญโญกล่าวว่า เมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ ผู้แทนพระองค์ของสมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ได้อัญเชิญกฐินพระราชทาน ไปทอดที่วัดแจ้งศิริสัมพันธ์ และหลังจากที่ได้ทราบว่าพระองค์ประชวร จึงนำเด็กนักเรียนชั้น ป.4-6 มาลงนามและนั่งสมาธิถวายพระพร  ขอให้พระองค์ท่านหายจากประชวรโดยเร็ว 


ในเวลา 14.50 น. นายกัมพล นพตระกูล และคณะ ตัวแทนของลูกแก้วอุบาสิกาบงกช สิทธิผล ประธานสถานปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

นำผลไม้ จำนวน 3 กระเช้า พร้อมเงินสด 3 แสนบาท มาทูลถวายสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระอัธยาศัย  คุณหญิงดรุณี พูลทรัพย์ เลขานุการในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้า กัลยาณิวัฒนาฯ เป็นผู้แทนพระองค์รับมอบ  นายกัมพล กล่าวว่า ขอให้พระองค์ทรงหายประชวรและทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง


ตามด้วย ม.จ.หญิงกรณิกา จิตพงษ์ พระชนม์ 91 ปี จากวังปลายเนิน พระธิดาองค์เล็กในสมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์   

เสด็จมายังศาลาศิริราช 100 ปี เพื่อลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมทูลเกล้าฯถวายโคโลญจน์เพื่อเยี่ยมพระอาการ จากนั้นรับสั่งกับผู้สื่อข่าวว่า รู้จักพระองค์มาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จพระดำเนินไปต่างประเทศหรือเสด็จฯกลับมา ก็จะไปรับเสด็จอยู่เสมอ ทั้งยังเคยเย็บฉลองพระองค์ถวาย และถวายงานรับใช้พระองค์ ซึ่งระยะหลังก็ยังเข้าเฝ้าทุกครั้งในช่วงวันประสูติ หรือวันปีใหม่ พระองค์ทรงเป็นเจ้านายที่ประเสริฐ มีน้ำพระทัยที่ดี ช่วยคนยากคนจน คนแก่ พระองค์ก็ทรงมีพระเมตตา อยากให้มีความสุขสบายกันถ้วนหน้า เมื่อทราบว่าพระองค์ ทรงพระประชวรก็เป็นห่วง จึงมาถวายพระพรให้ทรงหายจากประชวร ที่ผ่านมาเคยได้พึ่งพระบารมี รำลึกพระคุณของพระองค์ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเสด็จพระดำเนินอยู่ที่ไหน ก็จะถวายพระพรอยู่ตลอด


นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า
 
กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร สร้างถาวรวัตถุ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 7 รอบ 84 พรรษา โดยจัดตั้งสถาบันดนตรีคลาสสิกแห่งประเทศไทย ซึ่ง วธ.ขอ พระราชทานพระราชานุญาตใช้พระนามเป็นชื่อสถาบัน คือ
“สถาบันดนตรีคลาสสิกกัลยาณิวัฒนา” ซึ่งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เห็นชอบ เพื่อเชิดชูพระเกียรติพระองค์ให้เป็นที่รู้จักและกล่าวขานถึงในวงการดนตรีระดับนานาชาติ เพราะพระองค์ทรงสนับสนุนดนตรีคลาสสิกมาโดยตลอด และเพื่อเป็นการสนองแนวพระราช ดำริให้ประเทศไทยมีสถาบันสอนดนตรีคลาสสิกที่ปูพื้นฐานตั้งแต่เด็กปฐมวัย ต่อเนื่องไปจนถึงระดับอุดมศึกษา สำหรับสถานที่ตั้งนั้นได้รับมอบที่ดินของกรมธนารักษ์ จัดสรรพื้นที่จำนวน 14 ไร่เศษ บริเวณที่ตั้งโรงเหล้าเก่า ใต้สะพานพระราม 8 มาปรับปรุง คาดว่าจะใช้ระยะเวลาปรับปรุงและก่อสร้าง 3-4 ปี โดยจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาเห็นชอบในเร็วๆนี้
 

รมว.วัฒนธรรมกล่าวอีกว่า รัฐบาลยังได้มอบหมายให้ วธ.เป็นตัวแทนรัฐบาล ร่วมกับคณะกรรมการจัดงานนิทรรศการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยมีท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม เป็นประธานกรรมการจัดงาน

ในการนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นำภาพส่วนพระองค์ พระจริยวัตรอันงดงามต่างๆ ที่หาชมได้ยากของสมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอฯ อาทิ บันทึกภาพพระฉายาลักษณ์ลายพระนาม ทรงเป็นครูสอนฝรั่งเศส คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ทรงขับเครื่องบิน งานด้านศึกษาโบราณคดี และพระกรณียกิจที่สืบสานปณิธานสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีต่อทหารตำรวจตระเวนชายแดน เป็นต้น โดยจะนำไปจัดแสดงตามสถาบันการศึกษาในภูมิภาคต่างๆ นอกจากนี้ วธ.ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เผยแพร่พระเกียรติคุณและพระจริยวัตรอันงดงามผ่านนิทรรศการเทิดพระเกียรติให้ชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงได้ชื่นชม รวมทั้งจะจัดพิมพ์หนังสือพระนิพนธ์ 6 เล่ม อาทิ แม่เล่าให้ฟัง และหนังสือรวมพระราชประวัติที่กรมศิลปากรจัดทำขึ้น โดยจะจัดทำสำเนานิทรรศการเก็บรวบรวมข้อมูลให้ประชาชนได้ใช้ศึกษา ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์