นักท่องเที่ยวสองฝั่งโขงตื่นตาตื่นใจ
ชมบั้งไฟพญานาคผุดจากแม่น้ำโขงในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ผู้ที่เฝ้ารอชมต่างไม่ผิดหวัง เผยปีนี้ไปโผล่ที่อ.รัตนวาปีเป็นลูกแรก แถมโผล่มากกว่าที่อ.โพนพิสัยอีก ชาวบ้านฮือฮาถือเป็นการเปลี่ยนจุด ทั้งสองอำเภอนับได้ 67 ลูก ระบุปีนี้ยังไม่พลบค่ำบั้งไฟพญานาคลูกสีชมพูอมแดงก็ผุดขึ้นจากแม่น้ำโขงอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านสองริมฝั่งโขงต่างส่งเสียงฮือฮา สวท.หนองคายถึงกับถ่ายทอดสดๆ ให้ประชาชนได้ฟังบรรยากาศ
เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.หนองคาย
ถึงบรรยากาศวันออกพรรษาขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ซึ่งจะมีปรากฏการณ์สำคัญ คือบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นทุกปี ว่าบรรยากาศงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคของจังหวัดหนองคาย เริ่มคึกคักกันตั้งแต่เช้า มีรถยนต์ของนักท่องเที่ยวและรถทัวร์จำนวนมากเดินทางเข้ามา ทำให้การจราจรถนนมิตรภาพอุดรธานี-หนองคายหนาแน่น แต่ก็สามารถเคลื่อนตัวได้สะดวกไม่ติดขัด รถยนต์ทุกคันมุ่งหน้าเข้าจ.หนองคาย ก่อนจะเดินทางต่อไปยังอ.โพนพิสัย และอ.รัตนวาปี จุดหลักในการชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคช่วงกลางคืน
ส่วนสภาพการจราจรบนถนนสายหลักหนองคาย-โพนพิสัย คับคั่งไปด้วยรถยนต์หลากหลายชนิดที่มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองริมแม่น้ำโขง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยอำนวยความสะดวกในการจัดการจราจร แต่ก็ยังคงมีรถติดบ้าง ประกอบกับมีร้านค้าริมทางหนาแน่น จึงมีอุบัติเหตุเฉี่ยวชนเกิดขึ้นบ้างเล็กน้อย สำหรับการรายงานเส้นทางการเดินทางและสถานการณ์การเกิดบั้งไฟพญานาคสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.หนองคาย (สวท.) ได้จัดให้มีการถ่ายทอดพิเศษในระบบเอฟเอ็มความถี่ 90.5 เมกะเฮิร์ตซ์ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. วันที่ 26 ต.ค. ถึงเวลา 01.00 น. วันที่ 27 ต.ค.
บั้งไฟเปลี่ยนจุด-เปลี่ยนเวลาขึ้นแต่เย็น
นายเจด็จ มุสิกวงศ์ ผวจ.หนองคาย กล่าวว่า
ได้กำชับให้พาณิชย์จังหวัดออกตรวจสอบร้านค้า ร้านอาหาร และจุดบริการที่จอดรถไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคา พร้อมบังคับใช้มาตรการจัดการขั้นเด็ดขาดหากมีผู้ประกอบการฝ่าฝืน และยังกำชับร้านขายของไม่ให้จำหน่ายประทัดหรือดอกไม้ไฟ เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวที่ไม่เคยเห็นบั้งไฟพญานาคเกิดความสับสนว่าอันไหนเป็นบั้งไฟพญานาค อันไหนเป็นดอกไม้ไฟ
ที่วัดไทย อ.โพนพิสัย มีนักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างพากันจับจองที่นั่งที่ดีที่สุด เพื่อรอชมบั้งไฟพญานาค มีการปูเสื่อ กางเต็นท์ จับจองล่วงหน้า ส่วนนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกรุ๊ปทัวร์ ทางผู้จัดทัวร์จะล็อกพื้นที่ใช้เชือกกั้นไว้ล่วงหน้า ถึงแม้ช่วงกลางวันอากาศจะร้อนแต่ประชาชนก็ยังนั่งรอกันอย่างไม่ย่อท้อ ต่างคาดหวังว่าจะได้ชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคสักครั้งในชีวิต จนกระทั่งถึงช่วงพลบค่ำก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 1 แสนคน เบียดเสียดยัดเยียดแน่นขนัดริมฝั่งแม่น้ำโขง
เมื่อเวลา 16.43 น.
ได้เกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นเป็นลูกแรกของปีนี้ ที่แม่น้ำโขง บ้านโพนแพง ต.โพนแพง อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวและประชาชนนั่งรอชมอยู่เป็นจำนวนหนึ่งต่างพากันตื่นเต้นดีใจ เมื่อมีบั้งไฟพญานาคลูกสีชมพูอมแดงผุดขึ้นจากแม่น้ำโขงอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ยังไม่ทันพลบค่ำ ซึ่งที่บ้านโพนแพงแห่งนี้เป็นจุดที่เกิดบั้งไฟพญานาคขึ้นเป็นประจำ โดยในปี 2549 เฉพาะอ.รัตนวาปี มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้น 100 ลูก
จากนั้นหลังพระอาทิตย์ตกดิน เวลาประมาณ 18.15 น. เกิดบั้งไฟพญานาคที่บ้านตาลชุม ต.รัตนวาปี เป็นลูกที่สอง จากนั้นลูกไฟพญานาคก็ผุดขึ้นจากแม่น้ำโขงเป็นระยะๆ ถึงเวลา 19.00 น. นับได้ 9 ลูก ส่วนที่อ.โพนพิสัยยังไม่มีปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่นักท่องเที่ยวก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตารอคอยด้วยใจจดจ่อ
ผู้สื่อข่าวนับจำนวนบั้งไฟพญานาคอย่างไม่เป็นทางการ ที่อ.รัตนวาปี เกิดบั้งไฟพญานาคมากที่สุด โดยมีบริเวณที่เกิดบั้งไฟ ประกอบด้วย บ้านท่าม่วง 24 ลูก, บ้านโพนแพง 1 ลูก, บ้านหนองแก้ว 12 ลูก, บ้านน้ำเป 6 ลูก, อำเภอโพนพิสัย บริเวณบ้านใหม่กุดบง 3 ลูก, บ้านปากสวย 9 ลูก, บ้านเดื่อจุมพล 4 ลูก, อำเภอสังคม ที่บ้านผาตั้ง 5 ลูก และ อำเภอท่าบ่อ ที่บ้านโพนสา 3 ลูก รวม 67 ลูก ส่วนที่วัดไทย อ.โพนพิสัย ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากแต่ไม่เกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคให้เห็นเลย ซึ่งประชาชนได้ทยอยเดินทางกลับในเวลาประมาณ 19.30 น. และการจราจรเป็นไปด้วยความสะดวกคล่องตัวไม่ติดขัด