เชื่อปีนี้ระดับน้ำโขงสูงบั้งไฟพญานาคขึ้นเยอะ

หนองคายพร้อมรับคลื่นมหาชนเฝ้าชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค 26 ตุลาคม

ปีนี้จัดยิ่งใหญ่ "ย้อนรอยประวัติศาสตร์ 750 ปี" ผู้ว่าฯ ลั่นห้ามโคโยตี้โผล่เด็ดขาด ย้ำผู้ประกอบการต้องรักษาวัฒนธรรมอันดีไว้ เชื่อปีนี้ลูกไฟขึ้นเยอะ เพราะระดับน้ำโขงสูง ด้านเอกชนหวั่นพิษเศรษฐกิจ-น้ำมันแพง ทำนักท่องเที่ยวลด ส่วนตำรวจทางหลวงระดมทีมอำนวยการจราจรตลอดเส้นทางถนนมิตรภาพ

วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งเป็นวันออกพรรษาของทุกปี

นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลไปชมปรากฏการณ์ ”บั้งไฟพญานาค” ที่เกิดเป็นลูกไฟแดงอมชมพู ไม่มีเสียง ไม่มีเปลวไฟ ขึ้นตรง ไม่โค้งและตกลงเหมือนลูกไฟทั่วไป พุ่งขึ้นจากแม่น้ำโขงสู่ท้องฟ้า โดยปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นมากที่แม่น้ำโขงบริเวณ อ.โพนพิสัย เขตตั้งแต่ท่าน้ำวัดหลวง ต.วัดหลวง เรื่อยลงไปจนถึงเขตบ้านน้ำเป กิ่ง อ.รัตนวาปี บ้านท่าม่วง ตาลชุม ปากคาด และ แก่งอาฮง อ.บึงกาฬ ทำให้มีประชาชนจำนวนมากไปเฝ้าชมทุกปี โดยปีที่แล้วมีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นทั้งสิ้นเกือบ 300 ลูก

นายเจด็จ มุสิกวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า

เทศกาลออกพรรษาปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคจำนวนมาก เนื่องจากตรงกับช่วงวันหยุด จากการสำรวจที่พักโรงแรม รีสอร์ท พบว่าถูกจองเต็มหมดแล้ว จึงขอแนะนำนักท่องเที่ยวที่ยังไม่มีที่พักให้เข้าพักที่จังหวัดใกล้เคียงแทน หรืออาจนำเต็นท์มากาง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ในท้องที่คอยอำนวยความสะดวก


ผู้ว่าฯ หนองคาย กล่าวว่า การดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว จังหวัดได้ร่วมกับทุกหน่วยงานจัดเตรียมแผนรองรับไว้อย่างดี

มีป้ายบอกทางลัดไปยังจุดชมบั้งไฟตลอด เพื่อระบายรถออกจากเส้นทางหลัก นอกจากนี้ยังสั่งการให้ทุกพื้นที่กวดขันห้ามมีการเต้นโคโยโต้ หรือโป๊เปลือย เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์อันดีของจังหวัด ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งประเพณีวัฒนธรรม รวมทั้งห้ามจุดพลุหรือเล่นดอกไม้ไฟอย่างเด็ดขาดอีกด้วย

นายณรงค์ศักดิ์ ลิ้มโพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโพนพิสัย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย กล่าวว่า

ปีนี้เทศบาลได้จัดงานแสดงแสง สี เสียงขึ้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม เป็นงานย้อนรอยประวัติศาสตร์ แสดงแสงเสียง 750 ปีเมืองปากห้วยหลวง 100 ปีโพนพิสัย เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี อันเป็นการบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองปากห้วยหลวงเก่า ที่แม้แต่ชาว อ.โพนพิสัยกว่าร้อยละ 90 ก็ไม่ทราบประวัติความเป็นมา ประกอบกับปีนี้ครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้ง อ.โพนพิสัย และเพื่อเฉลิมฉลองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา แม้ว่าปีนี้จะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ แต่คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวอาจลดลงประมาณร้อยละ 5-10 จากภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับระยะ 2-3 ปี ที่ผ่านมา บั้งไฟพญานาคขึ้นน้อย ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงลดลง ทำให้นักท่องเที่ยวให้ความสนใจน้อยลง

ด้าน นายอารี วิพบุตร กำนัน ต.สีกาย อ.เมือง จ.หนองคาย กล่าวว่า


ปกติโฮมสเตย์บ้านจอมแจ้ง ต.สีกาย ที่มีอยู่ประมาณ 50 หลัง ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จะถูกจองเต็มทุกครั้ง แต่ปีนี้มีนักท่องเที่ยวจองเข้ามาประมาณ 130 คน หรือโฮมสเตย์ประมาณ 30 หลัง ยังเหลือที่พักอีกราว 20 หลัง

"นักท่องเที่ยวที่จองเข้ามาจะมาจากภาคเหนือ และภาคกลางเป็นส่วนใหญ่ โดยค่าบริการอัตราคนละ 250 บาท ซึ่งจะมีบริการอาหาร 2 มื้อ และที่พัก 1 คืน ซึ่งโดยปกตินักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะเดินทางไปชมบั้งไฟพญานาคที่ อ.โพนพิสัย หรือ อ.รัตนวาปี แต่ในปีนี้คาดว่าจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ระยะทางในการชมบั้งไฟพญานาคค่อนข้างไกล จึงทำให้นักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด"
นายอารีกล่าว

ด้านการเตรียมความพร้อมในการรองรับการจราจร พ.ต.อ.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผกก.4 ตำรวจทางหลวงขอนแก่น กล่าวว่า

ได้ตั้งกองอำนวยการที่หมวดการทางโพนพิสัย อ.โพนพิสัย จัดรถวิทยุ รถยก รถกู้ภัยและรถพยายาล 34 คัน ตำรวจ 78 นาย ไว้ประจำจุดต่างๆ พร้อมแนะนำเส้นทางในการเดินทางไปชมปรากฏการณ์ โดยช่วงที่มีการจราจรหนาแน่นได้จัดให้มีการเดินรถแบบทางเดียว ระหว่างแยก อ.โพนพิสัย-แยกหนองคาย หากนักท่องเที่ยวประสบเหตุสามารถแจ้งได้ที่ 1193 และกองอำนวยการร่วมหมวดการทางโพนพิสัย หมายเลขโทรศัพท์ 0-4247-1028 ได้ตลอดเวลา


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์