โอเน็ต-เอเน็ตตรวจเสร็จแล้วเหลือเทียบผล สทศ.มั่นใจ 25 เม.ย.เสร็จ 95%

โอเน็ต-เอเน็ตตรวจเสร็จแล้วเหลือเทียบผล สทศ.มั่นใจ 25 เม.ย.เสร็จ 95%

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 เมษายน 2549 02:17 น.

ภาวิช ระบุขณะนี้ข้อสอบปรนัยโอเน็ต-เอเน็ตตรวจออกมาเป็นผลคะแนนทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงเทียบผลกับ สทศ.เพื่อยืนยันความถูกต้องเท่านั้น เชื่อมั่น 25 เม.ย.นี้ตรวจเสร็จ 95% ส่วนอีก 5% คือกลุ่มที่หากระดาษคำตอบกับตัวบุคคลไม่พบ แต่มั่นใจจะแก้ปัญหาได้ ส่วนอัตนัยคณิตฯ-วิทย์ เสร็จแล้ว 99% อีก 1% คือกลุ่มที่เขียนลายมือหวัด

ศ.พิเศษ ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เปิดถึงความคืบหน้าการตรวจข้อสอบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ขั้นพื้นฐาน (O-NET) และ ผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ขั้นสูง (A-NET)ว่า ขณะนี้การตรวจข้อสอบปรนัยด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ดำเนินไปตามขั้นตอนเสร็จเรียบร้อยเป็นไฟล์คะแนนทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงตรวจทานผลคะแนนเปรียบเทียบกับคะแนนของสำนักงานทดสอบกลางแห่งชาติ(สทศ.)เท่านั้น ซึ่งในขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่นานมากนัก สำหรับส่วนที่ตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้วขณะนี้ คือกระดาษคำตอบที่มีข้อมูลต่างๆ ครบถ้วนโดยมีจำนวนกระดาษคำตอบทั้งหมดประมาณ 2.5 ล้านแผ่น อย่างไรก็ตามยังพบกระดาษคำตอบที่มีความผิดพลาดอยู่ เช่น มีกระดาษคำตอบแต่ไม่พบรายชื่อ หรือมีรายชื่อแต่ยังหากระดาษคำตอบไม่เจอ ซึ่งได้ส่งกลับไปตรวจสอบกับศูนย์กระดาษคำตอบประมาณ 10,000 แผ่น ก็ได้รับการตรวจสอบและส่งกลับมาจำนวนมากแล้วเช่นกัน เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้เรื่อยๆ และคาดหวังว่าจะสามารจับคู่ได้ทั้งหมด

คาดว่าในวันที่ 25 เม.ย.นี้จะสามารถตรวจสอบข้อสอบทั้งหมดได้เสร็จสิ้นทั้งปรนัยและอัตนัย 95% ส่วนอีก 5% นั้นคือส่วนที่ยังเป็นปัญหาหากระดาษคำตอบไม่พบ หรือยังไม่ทราบว่ากระดาษคำตอบเป็นของใคร ซึ่งก็ต้องไล่จี้เพื่อแก้ปัญหานี้ต่อไป ขณะนี้ข้อสอบปรนัยวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ได้ตรวจเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว ส่วนข้อสอบอัตนัยในทั้ง 2 วิชาดังกล่าวก็ดำเนินการไปแล้วกว่า 99% อีก 1% คือกระดาษคำตอบที่อาจเขียนลายมือหวัดเส้นไปชนกัน ทำให้เกิดความผิดพลาดในการตรวจข้อสอบก็ได้เร่งแก้ปัญหาไปทั้งหมดแล้ว ส่วนการตรวจข้อสอบอัตนัยวิชาภาษาไทยและภาษาอังกฤษนั้นต้องรอข้อมูลจาก สทศ.เลขาธิการ กกอ.กล่าว

ศ.พิเศษ ดร.ภาวิช กล่าวต่อว่า สำหรับการเปรียบเทียบผลคะแนนที่ตรวจใหม่กับผลคะแนนของ สทศ.นั้น พบว่าประมาณ 90% คะแนนทั้ง 2 ส่วนถูกต้องตรงกัน ซึ่งในการตรวจทานคะแนนวิชาภาาญี่ปุ่น จำนวน 500 กว่าแผ่น มีส่วนที่พบว่าคะแนนแตกต่างกันประมาณ 40 แผ่น หรือคิดเป็น 10% สำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยผลต่างที่เกิดขึ้นนั้นไม่เกินบวกลบ 4 คะแนนเท่านั้น

สำหรับกรณีเด็กที่จบการศึกษาก่อนปีการศึกษา 2548 หรือเด็กซิ่ล ที่ขอให้มีการปรับผลการเรียนจาก 5 ระดับเป็น 8 ระดับ เพื่อยื่นสมัครแอดมิชชันในปีการศึกษา 2549 นั้น ศ.พิเศษ ดร.ภาวิช กล่าวว่า แม้ว่าสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) จะมีข้อตกลงเรื่องการวัดผลว่าเด็กเรียนหลักสูตรไหน ต้องใช้วิธีการวัดผลตามหลักสูตรนั้น แต่สำหรับการแอดมิชชันในปีนี้นั้น เด็กที่จบหลังปีการศึกษา 2548 จะมีผลการเรียน 8 ระดับ แต่เด็กซิ่ลจะมีผลการเรียนแค่ 5 ระดับ เมื่อคิดผลการเรียนเฉลี่ยสะสมออกมาก็จะทำให้เกิดความเสียเปรียบเด็กที่จบตามหลักสูตรใหม่ ซึ่งก็ควรจะพิจารณาปรับให้เด็กกลุ่มนี้ได้เข้าแข่งขันด้วยกติกาเดียวกันเพื่อความเป็นธรรม ซึ่งในแต่ละปีจะมีเด็กซิ่ลโดยเฉลี่ยปีละประมาณ 10,000 คน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์