เอือมคนขายกล้วยทอดซิกแซกจ่ายค่าปรับ

นายประสาน บำรุงพันธุ์ รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ เปิดเผยภายหลังการประชุมการจัดระเบียบผู้ค้ากล้วยแขก ในพื้นที่เขตป้อมปราบฯ ดุสิต และพระนครว่า

นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานเขตดุสิต เขตป้อมปราบฯ และเขตพระนคร ตรวจจับและเข้มงวดกับผู้ค้ากล้วยแขกที่เดินเร่ขายอยู่ตามท้องถนน โดยในที่ประชุมเน้นย้ำให้นำมาตรการห้ามปรุงหรือขายสินค้าบนท้องถนน พ.ร.บ.รักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาบังคับใช้ โดยให้เจ้าหน้าที่เทศกิจและเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 เขต ดำเนินการจับปรับผู้ฝ่าฝืนในอัตราเดียวกัน คือ ไม่เกิน 2,000 บาท รวมทั้งให้นำ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาเปรียบเทียบปรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ซื้อกล้วยแขกบนท้องถนน โดยมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท 
 

นายประสาน กล่าวอีกว่า ตั้งแต่มีมาตรการจับ ปรับในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาผู้ขายกล้วยแขกใช้วิธีการใหม่หลบเลี่ยงกฎหมาย

คือให้ผู้เดินขายกล้วยแขกบนท้องถนนทำการซื้อกล้วยแขกจากร้านที่ทอดอยู่ริมถนนไปทั้งหมด 20 ถุงแล้วเดินขาย หากเจ้าหน้าที่เทศกิจจับได้ ร้านค้าที่ทอดขายจะอ้างว่าได้ขายขาดไปแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งเทศกิจต้องเรียกปรับกับผู้เดินเร่ขายเอง อย่างไรก็ตามต่อไปหากผู้เร่ขายอ้างว่าไม่มีเงินจ่ายค่าปรับเหมือนที่ผ่านมาอีก กทม.ก็จะส่งเรื่องให้ตำรวจส่งฟ้องศาลทันที นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้สำนักงานฝ่ายสิ่งแวดล้อมและเขตเข้มงวดตรวจสอบน้ำมันที่ใช้ทอดกล้วยแขกว่ามีการใช้ซ้ำและมีสารที่ก่อให้เกิดอันตราย รวมทั้งมีกลิ่นและควันรบกวนเพื่อนบ้านหรือไม่ หากไม่ได้มาตรฐานดังกล่าวจะพิจารณายึดใบขออนุญาตประกอบการ
 
ด้านนายสง่า จำนงบุตร หัวหน้าเทศกิจสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กล่าวว่า

เขตป้อมปราบฯได้ดำเนินการกวดขันไม่ให้มีการเดินเร่ขายกล้วยแขกทอดบนท้องถนนมาโดยตลอด แต่ก็ยังมีผู้ฝ่าฝืนลักลอบขายตลอดเวลา ซึ่งในเดือน ม.ค. 2549-15 ต.ค. 2550 สำนักงานเขตป้อมปราบฯได้จับกุมผู้ฝ่าฝืนแล้ว 180 ราย เปรียบเทียบปรับรวมเป็นเงินถึง 166,100 บาท ทั้งนี้เขตฯจะพยายามรณรงค์ให้ประชาชนได้ทราบและเข้าใจว่าการซื้อสินค้าในถนนสาธารณะเป็นความผิดตามกฎหมาย.