ยกฟ้องเรียก20ล้าน คาร่า เมียนักธุรกิจยื่นอุทธรณ์ต่อ

ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 ต.ค.

ศาลนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่นางจันทร์วิภา หรือภาวิดา กึงฮะกิจ อายุ 43 ปี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.คาร่า พลสิทธิ์ อายุ 40 ปี พิธีกรและนางแบบชื่อดังเป็นจำเลย เรียกค่าสินไหมทดแทน 20 ล้านบาท กรณีชู้สาวกับนายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ อายุ 45 ปี อดีตสามีของนางจันทร์วิภา นักธุรกิจก่อสร้างชื่อดังเจ้าของบริษัทดิ เอ็มเพอเรอร์ เฮาส์ เหตุเกิดระหว่างช่วงปี 47-48 โดยโจทก์นำคดีมาฟ้องต่อศาลเมื่อ ก.พ.49 ต่อมาทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการเจรจาเพื่อไกล่เกลี่ยยอมความกัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ และในระหว่างดำเนินคดีนางจันทร์วิภายังได้ฟ้องหย่านายสุรัตน์ชัย ศาลมีคำพิพากษาให้หย่าขาดจากกัน ขณะที่ น.ส.คาร่า ยื่นฟ้องนางจันทร์วิภา และนสพ.ดาราเดลี่ เรียกค่าเสียหายฐานละเมิด 50 ล้านบาท กรณีให้ข่าวในทางเสียหายต่ออาชีพในวงการบันเทิง

คดีนี้ฝ่ายโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานหลักฐานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของจำเลยกับอดีตสามีของนางจันทร์วิภา ประกอบด้วย

ภาพถ่าย วีดิโอ การเดินทางไปต่างจังหวัดของบุคคลทั้ง 2 คำเบิกความของพนักงานสายการบินแห่งหนึ่งสนามบิน จ.เชียงใหม่ ที่เห็นทั้งคู่ อยู่ด้วยกัน พร้อมภาพถ่ายของทั้งคู่อีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงจดหมายที่ลูกทั้ง 3 คน เขียนถึงพ่อระบายความรู้สึกเกี่ยวกับเหตุการณ์เกิดขึ้น ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งให้มีการพิจารณาคดีลับในเวลาต่อมา และมีคำสั่งห้ามคู่ความให้ข่าวเกี่ยวกับการพิจารณาคดี 


ก่อนที่ศาลจะเริ่มอ่านคำพิพากษา นางจันทร์วิภา เดินทางไปรอผลการพิจารณาคดี แต่ไม่ได้เข้าร่วมฟัง

ปล่อยให้ทนายความและญาติๆที่มาให้กำลังใจเข้าไปแทนโดยนางจันทร์วิภาเปิดเผยว่า หลังจากหย่าขาดตามคำพิพากษาของศาลแล้ว ศาลมีคำสั่งให้ตนรับหน้าที่เลี้ยงลูกทั้ง 3 คน ที่ผ่านมาลูกๆได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก เมื่อต้องย้ายโรงเรียนใหม่ เพราะเกิดความอับอาย ส่วนฝ่ายอดีตสามีทำหน้าที่จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเดือนละ 50,000 บาท นอกจากนี้ ลูกๆยังมีสิทธิได้อาคารพาณิชย์ที่ใช้เป็นที่ตั้งของบริษัทดิ เอ็มเพอเรอร์ เฮาส์ ย่านดอนเมืองด้วย แม้ติดจำนองอยู่แต่ได้ไปไถ่ถอนออกมาแล้วใช้เงินจำนวน 2,500,000 บาท สำหรับนายสุรัตน์ชัย มีสิทธิมาเยี่ยมลูกได้สัปดาห์เว้นสัปดาห์เท่านั้น ด้านดารานางแบบสาว คาร่า พลสิทธิ์ ไม่ได้เดินทางมา แต่ส่งทนายความไปแทน ซึ่งศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนรวมถึงบุคคลที่ไม่ใช่คู่ความเข้าฟังการอ่านคำพิพากษา

หลังจากศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษานาน 1 ชั่วโมงเศษ ปรากฏว่า

ทนายความโจทก์ได้ออกมาจากห้องพิจารณาคดีเข้าไปรายงานผลการพิจารณาให้นางจันทร์วิภาที่นั่งรออยู่ด้านนอกด้วยสีหน้าตื่นตระหนกว่า “ศาลยกฟ้อง เพราะพยานหลักฐานที่แสดงต่อศาลนั้น เป็นหลักฐานของโจทก์เพียงฝ่ายเดียว จำเลยไม่ได้แสดงออกโดยเปิดเผย ฟังไม่ได้ว่าเป็นเรื่องชู้สาว จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง” เมื่อนางจันทร์วิภาทราบดังนั้นถึงกับมีทีท่าตกใจ พูดอะไรไม่ถูก กล่าวต่อผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่า “ดิฉันต้องยื่นอุทธรณ์คดี และยื่นฎีกาให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน” ก่อนจะเดินหนีสื่อมวลชนที่รอบันทึกภาพทำข่าวออกไปทันที

นายสุพรรณ เสือหาญ ทนายความโจทก์ กล่าวว่าคดีนี้ศาลยกฟ้อง แต่จะยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน

ศาลสั่งห้ามให้สัมภาษณ์ และเผยแพร่รายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณา เพราะรายละเอียดในคดีพิพากษานั้นเป็นเรื่องส่วนตัว และอาจจะกระทบต่อสังคมได้ ต่อข้อถามที่ว่า เมื่อศาลยกฟ้องในคดีนี้จะส่งผลต่อคดีที่คาร่าฟ้องนางจันทร์วิภาฐานละเมิดหรือไม่ นายสุพรรณกล่าวว่า คงมีบ้าง แต่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์