เร็วๆ นี้ สหรัฐจะติดตั้งเครื่องสแกนร่างกายผู้โดยสาร "แบ๊กสแคตเทอร์ (backscatter)"
ที่ใช้ "คลื่นความถี่วิทยุ" ในการตรวจจับวัตถุแปลกปลอม และนำมาติดตั้งที่ "สนามบินฟีนิกซ์สกายฮาเบอร์" เป็นแห่งแรก "เครื่องแบ๊กสแคตเตอร์" จะตรวจจับผู้โดยสารทั้งตัว ซึ่งลำแสงที่ใช้เป็นลำแสงที่แคบ มีความถี่ต่ำ เรียกว่า "มิลลิเมตรเตอร์เวฟ (millimeter wave)" สามารถตรวจจับทั่วร่างกายภายในเวลาอันรวดเร็ว คลื่นความถี่ที่ใช้ขณะสแกนเทียบเท่ากับได้รับรังสีเมื่อไปยืนกลางแดดประมาณ 15 นาที ทางการสหรัฐกำลังทดสอบดูว่า "เครื่องแบ๊กสแคตเตอร์" และเครื่องสแกนที่นิยมใช้กันตามสนามบินในปัจจุบันนั้น เครื่องไหนมีประสิทธิภาพดีกว่ากัน ซึ่งทั้งสองเครื่องต่างตรวจหาระเบิด เหล็ก พลาสติกและของเหลว ที่ซ่อนอยู่ในร่างกายได้เหมือนกัน
หลักการทำงานของ "เครื่องแบ๊กสแคตเตอร์" มีอยู่ว่า ผู้โดยสารจะต้องเดินเข้าไปในประตูสูง 9 ฟุต กว้าง 6 ฟุต
จากนั้นต้องหยุดและยกแขนทั้งสองข้างขึ้น ระหว่างนั้นเครื่องจะสแกนร่างกายด้วยคลื่นความถี่วิทยุ เพื่อสร้างภาพที่เกิดจากพลังงานที่สะท้อนออกมาจากร่างกาย การสแกนกินเวลาเพียง 1.8 วินาที และใช้เวลาประมาณ 1 นาทีกว่าที่ภาพร่างกายจะปรากฏอยู่บนจอคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ห่างออกไป เพื่อปกป้องเสรีภาพส่วนบุคคล ไม่ให้ผู้โดยสารอื่นเห็นร่างกายของเรา และภาพร่างกายที่สแกนได้นี้จะไม่เซฟไว้ในคอมพิวเตอร์
สำหรับราคา "เครื่องแบ็คสแคตเตอร์" ตกเครื่องละ 100,000-120,000 เหรียญ และอาจนำไปติดตั้งที่สนามบินจอห์น เอฟ.เคนเนดี้ ในนครนิวยอร์กและสนามบินแล็กซ์ในนครลอสแองเจลิสต่อไป