โพลเผยผลสำรวจพฤติกรรม "กิ๊ก" แนวโน้มมากเหมือนเดิม-เพิ่มมากขึ้น ร้อยละ 98
ส่วนร้อยละ 81 ระบุเคยรู้สึกสับสนคนอื่นที่ไม่ใช่ผัว-เมียของตัวเอง ร้อยละ 82.4 ชี้จำนวนกิ๊กจะเพิ่มมากขึ้น และร้อยละ 57.6 เคยมีสัมพันธ์ทางเพศด้วยกัน ขณะที่กลุ่มเป้าหมายกว่าร้อยละ 85 ยอมรับกับเรื่องนี้ไม่ได้ เช่นเดียวกับกรณีที่มีการมองว่าการมีกิ๊กเป็นเรื่องปกติในสังคมปัจจุบัน ถึงร้อยละ 51.8 มิหนำซ้ำร้อยละ 79.9 รับไม่ได้ที่คู่ตัวเองไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นแล้วยังมองว่าไม่ผิดอะไร แต่ยังมีการตั้งข้อสังเกตถึงสาเหตุของการมีกิ๊ก ซึ่งร้อยละ 43.0 อ้างว่าความเครียดที่เกิดจากการทำงานและเรียนหนังสือ ส่วนกลุ่มที่มีปัญหาอื้อฉาวเรื่องนี้มากที่สุด กลุ่มเป้าหมายร้อยละ 74.3 ระบุว่าเป็นดารานักแสดง
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. นายนพดล กรรณิกา ผอ.ศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็น
หัวข้อ "ตัวบ่งชี้มูลเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดพฤติกรรมการนอกใจคู่รัก (การมีกิ๊ก) ในทรรศนะของประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล" จำนวน 1,480 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 9-10 ต.ค. พบว่าพฤติกรรมการนอกใจคู่รักและการมีกิ๊กของคนในสังคมไทยโดยภาพรวม มีแนวโน้มมากเหมือนเดิม-เพิ่มมากขึ้นกว่าร้อยละ 98 และข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมดังกล่าวจะเป็นที่รับรู้ของคนทั่วไปมากถึงร้อยละ 87.1 ส่วนคำถามเกี่ยวกับการมีคู่รักที่เคยมีเพศสัมพันธ์ด้วย กว่าครึ่งคือร้อยละ 58.5 ระบุว่าไม่เคยมี ร้อยละ 25.1 ระบุว่าเคยมี แต่ปัจจุบันไม่มี ที่เหลือจำนวนร้อยละ 16.4 ตอบว่าปัจจุบันยังคงมีอยู่
ผลการสำรวจระบุถึงการทราบข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมการนอกใจคนรัก (เคยมีเพศสัมพันธ์กันเหมือนสามีภรรยา) ของคนในสังคมไทย
ร้อยละ 87.1 ระบุว่า ทราบ ส่วนร้อยละ 12.9 ไม่ทราบ ส่วนแนวโน้มพฤติกรรมการนอกใจคู่รักและการมีกิ๊กของคนในสังคมไทย กลุ่มเป้าหมายร้อยละ 82.4 ระบุว่า มีเพิ่มมากขึ้น ร้อยละ 16.2 มากเหมือนเดิม ส่วนคำถามที่ระบุว่าเคยมีคู่รัก (เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นเหมือนสามีภรรยา) ร้อยละ 16.4 ระบุว่า ปัจจุบันมีอยู่ ร้อยละ 25.1 อดีตเคยมี แต่ปัจจุบันไม่มี และร้อยละ 58.5 ระบุว่า ไม่เคยมี