แพทย์ ระบุหลวงพ่อปัญญาหลอดเลือดหัวใจตีบ

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ผอ.โรงพยาบาลศิริราช ชี้แจงสาเหตุการมรณภาพของพระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เจ้าอาวาสวันชลประทานรังสฤษดิ์ ว่า

เกิดจากสาเหตุอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ติดเชื้อในปอด และไตวายเฉียบพลัน โดยแพทย์ให้การรักษาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ก่อนเข้าทำการรักษาหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ มีอาการแน่นหน้าอก และหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ซึ่งทางแพทย์ได้ขยายหลอดเลือดในวันที่ 5 ต.ค. ก่อนจะมีอาการแย่ลงและมรณภาพดังกล่าว

เตรียมเคลื่อนสรีระสังขาร “หลวงพ่อปัญญา” ไปวัดชลประทาน
 
นางไพลิน สัจจวนิชย์ ญาติผู้ใหญ่ที่ดูแลหลวงพ่อปัญญามาตั้งแต่ยังเล็ก เปิดเผยหลังการมรณภาพของหลวงพ่อปัญญาว่า อาการของหลวงพ่อปัญญาก่อนมรณภาพนั้นมีอากาเจ็บหน้าอก และเหนื่อย จึงได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนจะถูกส่งต่อมายังโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่ากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จึงได้ผ่าตัดขยายหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งการผ่าตัดเป็นไปด้วยดี แต่ภายหลังมีอาการแทรกซ้อน จึงทำให้มรณภาพ
      
“ตลอดระยะเวลาที่หลวงพ่อป่วย ท่านเข้มแข็งและมีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคอย่างดี ไม่เคยแสดงอาการท้อแท้ใจกับอาการป่วย ไม่เคยทำให้ญาติมีอาการใจเสียกับโรคภัยที่ท่านมีอยู่แม้แต่ครั้งเดียว”
      
นางไพลิน กล่าวด้วยว่า หลวงพ่อปัญญาได้จัดการเรื่องทุนการศึกษาของบุตรหลานไว้ให้เรียบร้อย

โดยไม่ทิ้งภาระไว้กับคนข้างหลัง แต่สิ่งที่หลวงพ่อเคยปรารภ คือ อยากอยู่จนถึงอายุ 100 ปี เพราะอยากเห็นอาคาร มจร.ที่หลวงพ่อเป็นคนจัดหาทุนในการก่อสร้างเอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยหลวงพ่ออยากอยู่จนการก่อสร้างแล้วเสร็จก่อน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสรีระสังขารของหลวงพ่อปัญญาจะมีการเคลื่อนย้ายไปยัง รพ.ชลประทานฯ ในเวลา 13.00 น.ไปยังห้องผู้ป่วยประจำของหลวงพ่อปัญญาที่ รพ.ชลประทานฯ โดยจะเก็บสรีระสังขารของหลวงพ่อปัญญาไว้ในห้องดังกล่าวก่อน เพื่อรอกำหนดการจากทางสำนักงานพระราชวัง และทางวัดชลประทาน
      
ทั้งนี้ ทาง รพ.ศิริราช จะเคลื่อนสรีระสังขารของหลวงพ่อไปไว้ยังศาลาพิธีธรรม ริมน้ำ รพ.ศิริราช

เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกราบสรีระสังขารของหลวงพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเคลื่อนไปยัง รพ.ชลประทานฯ ต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังหลวงพ่อปัญญามรณภาพได้เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้พุทธศาสนิกชนต่างโจษจันว่าเป็นการร่ำไห้ต่อการจากไปของหลวงพ่อปัญญา.


"หลวงพ่อปัญญา" มรณภาพ (09.45 น.)

เมื่อเวลา 09.00น. หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ ได้มรณภาพลงด้วยอาการสงบ ที่ตึกอัษฎางค์  หลังจากสัปดาห์ที่แล้วท่านบ่นกับลูกศิษย์ว่า เจ็บหน้าอก ก่อนจะพาตัวเข้ารับการรักษาอาการอาพาธ และมรณภาพดังกล่าว ส่วนความคืบหน้าทีมข่าวเดลินิวส์จะรายงานให้ทราบอีกครั้ง

ประวัติหลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุ

ชื่อ: พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ)
เดิมชื่อ: ปั่น นามสกุล เสน่ห์เจริญ
เกิด: เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๔ ตรงกับวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ ปีกุน ที่ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เป็นบุตรของนายวัน - นางคล้าย เสน่ห์เจริญ มีพี่ชาย ๑ คน พี่สาว ๒ คน และน้องสาว ๑ คน
บรรพชา: พ.ศ. ๒๔๗๒ อายุ ๑๘ ปี บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดอุปนันทารามตำบลเขานิเวศน์ จังหวัดระนอง และอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ใน พ.ศ. ๒๔๗๕ เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี ที่วัดนางลาด ตำบลเขาเจียก อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง โดยมีพระครูจรูญกรณีย์ เป็นพระอุปัชฌาย์


วิทยฐานะ
:

• ครูใหญ่ในโรงเรียนประชาบาล เงินเดือน ๆ ละ ๒๕ บาท และได้เรียนนักธรรมไปด้วย
• สอบนักธรรมตรีได้ที่ ๑ ทั้งมณฑลภูเก็ต หัวข้อกระทู้ธรรมในการสอบครั้งนั้น คือ "น สิยา โลกวฑฺฒโน - บุคคลไม่ควรเป็นคนรกโลก"
• ศึกษาภาษาบาลีที่วัดสามพระยา กรุงเทพมหานคร จนสอบได้ประโยค ๔
• ได้รับปริญญาพุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาครุศาสตร์) จากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
• รับรางวัล " สังข์เงิน" เป็นเกียรติในฐานะพระภิกษุผู้เผยแพร่ธรรมะยอดเยี่ยมประจำปี ๒๕๒๐ จากสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย
• คุรุศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาครุศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทรวิโรฒ
• ได้รับถวายปริญญาสังคมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาครุศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง


ประวัติการทำงาน
:
 
• เทศน์ครั้งแรก ที่วัดปากนคร จังหวัดนครศรีธรรมราชพ.ศ. ๒๔๗๖
• ร่วมธุดงค์ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนา ที่ประเทศพม่า
• ไปจำพรรษาที่สวนโมกขพลาราม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
• ศึกษาและปฏิบัติธรรมร่วมกับท่านพุทธทาสและท่าน บ.ช. เขมาภิรัต เป็น "สามสหายธรรม" ร่วมงานเผยแพร่พระพุทธศาสนา
• เผยแพร่พระพุทธศาสนาด้วยการปาฐกถาธรรม ในนาม "ภิกขุ ปัญญานันทะ" ผู้สนับสนุนคนสำคัญ คือ เจ้าชื่น สิโรรส
• เดินทางไปเผยแพร่ธรรมะยังทวีปยุโรป และร่วมประชุมกับขบวนการศีลธรรมโลก (M.R.A.) ที่เมืองโคช์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
• กรมชลประทานอาราธนานิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์
• รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์และได้บวช ม.ล. ชอบ อิศรศักดิ์ เป็นคนแรก
• ปฏิรูปพิธีกรรมทางศาสนาให้เป็นไปเพื่อส่งเสริมสติปัญญา ตามหลักการที่ว่า "เป็นระเบียบ เรียบง่ายประหยัด และได้ประโยชน์"
• แสดงพระธรรมเทศนา ถวายแด่สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ ณ พระตำหนักจิตรลดารโรฐาน
• เริ่มเปิดสอน พุทธศาสนาวันอาทิตย์ แก่เยาวชน
• แสดงธรรมเทศนาถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ
• แสดงพระธรรมเทศนา ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว , สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชนีนาถ, องคมนตรีและรัฐมนตรีทุกท่าน ในพระราชพิธี พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ รามาธิบดีอันมีศักดิ์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
• ได้รับรางวัล "นักพูดดีเด่น" ประเภทเผยแพร่ธรรม จากสมาคมฝึกการพูด
• เริ่มแสดงปาฐกถาธรรม ทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน เวลา ๘.๐๐ - ๘.๓๐ น. สถานีวิทยุกระจายเสียง
• เริ่มโครงการ "พระธรรมทายาท" อบรมพระภิกษุให้เป็นนักเผยแผ่ธรรมะที่ดี เป็น "ธรรมทายาท" มิใช่ "อามิสทายาท" ของพระบรมศาสดา
• ได้รับการยกย่องและคัดเลือกให้เป็น "บุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา"
• รับถวายที่ดิน จำนวน ๖ ไร่ เพื่อสร้างวัดปัญญานันทาราม
• เป็นเจ้าคณะภาค ๑๘ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐ และลาออกใน พ.ศ. ๒๕๔๑


ตำแหน่งปัจจุบัน
:
 
• เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์
• หัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๙
• ประธานมูลนิธิพุทธทาส
• ประธานมูลนิธิส่งเสริมแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอ


สมณะศักดิ์
:
 
• รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น "พระปัญญานันทมุนี" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๙
• ได้รับพระราบทานสมณศักดิ์ เป็น "พระราชนันทมุนี" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๔
• ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น "พระเทพวิสุทธิเมธี" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐
• ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นที่ "พระธรรมโกศาจารย์" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๗
• ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น "พระพรหมมังคลาจารย์" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗



 


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์