พิจิตร-พิษณุโลก น้ำป่าทะลักจมอีก

พิจิตรอ่วมอีก น้ำป่าจากเพชรบูรณ์ ทะลักท่วม 5 ตำบล

บ้านเรือนนับพันหลังเดือดร้อน ส่วนที่พิษณุโลก น้ำป่าทะลักท่วมบ้านเรือน ชุมชนหลังห้างดังน้ำท่วมสูง 1 เมตร ตชด.ระดมช่วยเหลือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานถุงยังชีพช่วยเหลื่อเหยื่อน้ำท่วมที่พิษณุโลก รองเลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯนำไปแจกจ่าย ส่วนที่กาฬสินธุ์ จากอิทธิพลพายุเลกีมา ฝนตกหนัก เขื่อนลำปาวเต็มเกินระดับเก็บกัก ต้องเร่งระบายออก ชาวบ้านผวาเขื่อนแตก ผู้ว่าฯสั่งวิศวกรตรวจสอบด่วน มั่นใจไม่แตกแน่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ต.ค.

นายเกษม พลอยประดิษฐ์ นายอำเภอบางมูลนาก จ.พิจิตร เปิดเผยว่า หลังจากมีฝนตกติดต่อกัน ทำให้น้ำป่าจากเพชรบูรณ์ไหลเข้าท่วมพื้นที่ 5 ตำบล คือต.บางไผ่ ต.เนินมะกอก ต.ลำประดา อ.บางมูลนาก จำนวน 10 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 1,000 หลัง ไร่นาถูกน้ำท่วมหลายพันไร่ ขณะนี้กำลังสำรวจความเสียหาย นอกจากนี้ สั่งให้เจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหายแล้ว

ด้านนายสุรพล รุ่งอินทร์ ปลัดอำเภอ รักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองพิจิตร กล่าวว่า

ขณะนี้น้ำท่วมพื้นที่ในเขตอ.เมืองพิจิตร 3 ตำบล คือ ต.บ้านบุ่ง หมู่ที่ 2,3,5และ 6 ราษฎรเดือดร้อน 870 หลัง ต.หัวดง หมู่ที่ 2,3 และ5 ราษฎรเดือดร้อน 611 หลัง และต.สายคำโห้ หมู่ที่ 1,2,3,4 และ 5 ราษฎรเดือดร้อน 300 หลัง นอกจากนี้ถนนในเขตเทศบาลตำบลวังกรด สายบ้านบุ่ง-วังกรด ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 30 ซ.ม.

ต่อมาเวลา 10.00 น.

นายประภาส พงษ์แตง นายอำเภอสากเหล็ก จ.พิจิตร นายสมควร ผู้ประเสริฐ นายกเทศบาลตำบลสากเหล็ก พร้อมคณะนำถุงยังชีพจำนวน 1,100 ชุดออกแจกจ่ายชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตเทศบาลตำบลสากเหล็ก 6 ชุมชน หลังน้ำป่าจากอ.เนินมะปราง และจ.เพรชบูรณ์ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จ.พิษณุโลก

ระดับน้ำที่ไหลมาจากอ.วังทอง จ.พิษณุโลกเอ่อท่วมเขตต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้บ้านเรือนประชาชนจำนวนมากจมใต้น้ำ โดยเฉพาะชุมชนด้านหลังห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาพิษณุโลก น้ำท่วมเส้นทางเข้า-ออกบ้านพักไปแล้วกว่า 100 หลัง ขณะที่ยังคงมีคนติดอยู่ในบ้านไม่สามารถเข้า-ออกได้จำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

พ.ต.ท.สุชาติ หนองหารพิทักษ์ ผบ.ร้อย.ตชด.312 กก.ตชด31 ค่ายพระยาจักรี อ.เมือง จ.พิษณุโลก นำเรือท้องแบนออกช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในบ้านพัก พร้อมทั้งนำเรือไปรับนางแหวว สุขุมใน อายุ 66 ปีที่มีบ้านพักอยู่ในเขตหมู่ที่ 6 ต.อรัญญิกหลังจากป่วยเป็นโรคหัวใจกำเริบ ไม่สามารถออกจากบ้านได้ เจ้าหน้าที่ตชด.ต้องอุ้มลงจากบ้านพักขึ้นเรือท้องแบน นำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธชินราช

สำหรับชุมชนด้านหลังห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาพิษณุโลกเป็นที่ราบลุ่ม อยู่ติดกับเขตเทศบาลนครพิษณุโลก กลายเป็นแหล่งรองรับน้ำที่ไหลบ่ามาจากเขตอ.วังทอง ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร

วันเดียวกันนี้

นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะกรรมการมูลนิธิ นำสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง และของใช้ที่จำเป็น ไปมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยในเขตต.เนินกุ่ม ต.วัดตายม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก และต.นครชุม ต.นาบัว และต.นครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก จำนวน 1,000 ครอบครัว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

ก่อนหน้านี้ นายดิสธร พร้อมคณะนำถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 1,000 ถุงไปมอบให้กับราษฎรที่ประสบอุทกภัยในเขตต.บ้านมุง ต.วังยาง ต.วังโพรง ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง และต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

สำหรับจ.พิษณุโลก มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 6 อำเภอ 33 ตำบล 179 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 13,463 ครอบครัว มีผู้เสียชีวิต 3 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย 128,099 ไร่

ส่วนที่จ.กาฬสินธุ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

จากอิทธิพลของพายุเลกีมา ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำป่าไหลลงสู่เขื่อนลำปาว ทำให้ปริมาณน้ำเกินระดับเก็บกักไปแล้วกว่า 224 ล้านลบ.ม. ต้องเร่งระบายน้ำ ทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับความแข็งแรงของตัวเขื่อน

นอกจากนี้ในพื้นที่ลุ่ม 9 อำเภอ นาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

 ชาวบ้านบางส่วนต้องช่วยกันเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อป้องกันความเสียหาย โดยเฉพาะในเขตอ.ฆ้องชัย ส่วนที่ต.โนนศิลา กระแสน้ำจากลำน้ำปาวเอ่อล้นเข้าท่วมบริเวณโรงสีข้าวพระราชทาน มีบ้านเรือนราษฎรไม่ต่ำกว่า 10 หลังได้รับความเดือดร้อน ขณะที่บริเวณพนังกั้นลำน้ำชี บริเวณรอยต่อระหว่างอ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ และจ.มหาสารคามตรงบ้านท่าแห่ น้ำเอ่อล้นจากลำน้ำชี ทางอำเภอประกาศเตือนให้ราษฎรติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวัง

ด้านนายประชา จิตสุทธิผล ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ กล่าวว่า

ตนสั่งการให้ชลประทานจังหวัดและหัวหน้าโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวนำวิศวกรเข้าตรวจสอบสภาพของตัวเขื่อนลำปาว เนื่องจากเป็นเขื่อนดินที่มีความยาวที่สุดในประเทศไทยและมีการก่อสร้างมาแล้วกว่า 37 ปี แต่เนื่องจากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากที่มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ทำให้ประชา ชนเกิดความวิตกกังวล อย่างไรก็ตามเบื้องต้นยังมีคำยืนยันจากผู้รับผิดชอบว่า เขื่อนลำปาวยังคงมีความแข็งแรงและรองรับน้ำได้อย่างสบาย สำหรับความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 1.4 แสนไร่ มีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 50 หลังคาเรือน ซึ่งเกิดขึ้นในบริเวณลำน้ำชีในเขตอ.ฆ้องชัย

นายประชา กล่าวอีกว่า

 สำหรับอิทธิพลน้ำป่าไหลหลากที่ทำให้ประชาชนวิตกกังกล พบว่าจ.กาฬสินธุ์จัดเป็นพื้นที่แอ่งกระทะที่จะได้รับอิทธิพลจากพายุฝนเลกีมา โดยเฉพาะเขื่อนลำปาวที่มีอาณาเขตกว้างขวางติดกับรอยต่อหลายจังหวัด ทางตอนบนของตัวเขื่อนจะได้รับอิทธิพลน้ำป่าทางด้านอ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี และน้ำป่าจากแนวเขตเทือกเขาภูพานด้านจ.สกลนคร หากในพื้นที่ลุ่มน้ำปาวและลำน้ำชีมีปริมาณน้ำหนุนสูงจากจ.ขอนแก่นและจ.ชัยภูมิ จะทำให้การระบายน้ำจากเขื่อนลำปาวไปสมทบกับลำน้ำสาขาไม่ว่าจะเป็นลำน้ำปาวและลำน้ำชี และช่วงนี้หากเกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จะทำให้พื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนราษฎรได้รับความเดือดร้อนเป็นบริเวณกว้าง

"ขณะนี้สั่งการไปยังอำเภอทุกแห่งให้สำรวจความเสียหาย และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้รายงานเข้ามายังจังหวัดตลอด 24 ชั่วโมง และที่สำคัญจะต้องออกข่าวกระจายเสียงให้ประชาชนได้รับทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หากไม่มีฝนตกลงมาอีกคาดว่าภายใน 6-7 วันพื้นที่ที่ถูกนำท่วมจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ" ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์กล่าว

ส่วนที่จ.มหาสารคาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพายุเลกีมา โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่ต.เขวาใหญ่ อ.กันทรวิชัย จำนวน 21 หมู่บ้านที่สร้างบ้านเรือนติดกับแม่น้ำชี น้ำชีเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ระดับน้ำสูงกว่า 40 ซ.ม. และนาข้าวที่กำลังตั้งท้องได้รับความเสียหายหลายหมื่นไร่

ด้านนายมงคล นามศรีอุ่น นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เขวาใหญ่ กล่าวว่า

ขณะนี้เกษตร กรในพื้นที่ทั้ง 21 หมู่บ้านได้รับผลกระทบหนักสุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากอิทธิพลของพายุเลกีมา นาข้าวที่กำลังตั้งท้องพื้นที่กว่า 25,000 ไร่ถูกน้ำชีเอ่อล้นเข้าท่วมตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมาถึงวันนี้ระดับน้ำยังไม่มีวี่แววว่าจะลด นอกจากนี้แรงดันน้ำ ยังทำให้พนังกั้นน้ำบริเวณลำห้วยสามสัตว์ บ้านส้มโฮง ม.9 เกิดรอยร้าว เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ น้ำจากลำห้วยหลายสายไหลมาบรรจบ ทำให้ระบายน้ำไม่ทัน อบต.จึงประสานขอความร่วมมือไปยังอบจ.และชลประทานจังหวัดมหาสารคาม เพื่อขอเครื่องสูบน้ำ 11 เครื่องมาติดตั้งบริเวณลำห้วยสามสัตว์ เพื่อเร่งสูบน้ำลงแม่น้ำชีกันพนังกั้นน้ำพัง โดยระดมตัวแทนชาวบ้านทั้ง 21 หมู่บ้านมาช่วยกันติดตั้ง

นายปรีชา ภูศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)ห้วยเตย อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม กล่าวว่า

ผลพวงจากอิทธิพลของพายุเลกีมา ทำให้ลำห้วยหลายแห่งและถนนเพื่อการเกษตรกว่า 30 สาย ถูกน้ำกัดเซาะขาด มูลค่าความเสียหาย กว่า 3 ล้านบาท ทำให้เกษตรกรที่จะออกไปดูพื้นที่การเกษตรและนาข้าวของตนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เบื้องต้น อบต. ประสานขอความร่วมมือไปทางอำเภอกุดรังแล้ว

ด้านนายวิบูลย์ ดรอินทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดอนกลาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า

 สะพานเชื่อมระหว่างบ้านดอนกลาง ม.1 ไปบ้านวังแคน ม.7 และบ้านวังจาน ม.3,6 คอสะพานทรุดตัว ชาวบ้านเดือดร้อน เนื่องจากรถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เบื้องต้นอบต.สร้างสะพานไม้ให้ชาวบ้านใช้สัญจรไปมาได้สะดวก