นพดลบุก แพทยสภา บี้พรทิพย์

นพดล ธรรมวัฒนะ" บุกแพทย-สภาอีกหน ยื่นหนังสือร้องทุกข์ซ้ำ กล่าวหา"หมอพรทิพย์-หมอธำรง" ทำรายงานตรวจศพ"ห้างทอง ธรรมวัฒนะ"เป็นเท็จ


โวยตั้งแต่ร้องให้สอบไปครั้งแรก ผ่านมา 1 ปี 4 เดือนไม่มีความคืบหน้า อัดแพทยสภาหมกเม็ด-ปกป้องกันเอง หวั่นจะเกิดวิกฤตศรัทธาจากประชาชน หากการตัดสินไม่ให้ความเป็นธรรม ทั้งที่มีหลักฐานครบถ้วนหมดแล้ว

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 ต.ค. ที่แพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข นายนพดล ธรรมวัฒนะ เข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกร้องทุกข์และกล่าวหาพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ และน.พ.ธำรง จิรจริยเวช

ฉบับลงวันที่ 8 มิ.ย.2549 ต่อคณะกรรมการแพทยสภาซ้ำอีกครั้ง โดยมีเอกสารประกอบคือ 1.หนังสือจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ นร.0411/ลน/13411 ลงวันที่ 14 ต.ค.2546 เรื่องขอความร่วมมือคณะแพทย์ร่วมตรวจวิเคราะห์สภาพศพ พร้อมวัตถุประสงค์ของการตรวจพิสูจน์ เพื่อทราบจำนวน 3 หน้า ถึงคณบดีแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล 2.หนังสือจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ นร.0411/ลน./1402 ลงวันที่ 27 ต.ค.2546 เรื่องแต่งตั้งคณะแพทย์ร่วมตรวจวิเคราะห์สภาพศพถึงพล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ จำนวน 1 หน้า 3.หนังสือจากภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ที่ศธ. 0517.0710/นต ลงวันที่ 2 พ.ย.2546 เรื่องการให้ความเห็นทางวิชาการ ถึงผบก.ป.(พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์) จำนวน 3 หน้า 4.แผ่นบันทึกดีวีดี ภาพเหตุการณ์ยิงตัวตายในสหรัฐอเมริกา 5.คำแถลงการณ์ปิดคดีหมายเลขดำที่ 248/2547 คดีหมายเลขแดงที่ อ.3819/2550 7.ข่าวตัดจากหนังสือพิมพ์ อาทิ ข่าวสด คอลัมน์ "เหล็กใน" ลงวันที่ 1 ต.ค.2550 ข่าวสด คอลัมน์ "ชกไม่มีมุม" ลงวันที่ 1 และ 2 ต.ค.2550

นายนพดลกล่าวว่า ตนยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการแพทยสภา


เพื่อร้องทุกข์และกล่าวหาพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์และน.พ.ธำรง ร่วมกันทำรายงานการตรวจศพและให้ความเห็นคดีนายห้างทอง ธรรมวัฒนะ เป็นเท็จ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและประพฤติจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรมเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้กล่าวหานั้น ครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.2549 จนถึงขณะนี้ผ่านมา 1 ปี 4 เดือน และศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง ตามที่ได้ยื่นเอกสารมาให้ว่า การตายดังกล่าวมิได้เกิดจากการฆาตกรรม เอกสารที่นำมาเพิ่มเติม ลำดับที่ 1-3 เป็นเอกสารที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ว่ามีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ ก่อนที่ตนจะร้องเรียน และโดนกล่าวหา แสดงให้เห็นถึงการหมกเม็ด และพยายามปกป้องกัน ซึ่งศาลได้เอกสารดังกล่าวมาสอบสวนและปรากฏเป็นหลักฐานในชั้นศาลด้วย

"ยังเชื่อว่าในคณะกรรมการแพทยสภามีผู้ทรงคุณวุฒิ ที่จะสามารถให้ความเป็นธรรมได้ แต่ก่อนหน้านี้น.พ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อในเชิงปกป้องพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ จึงทำให้มีความไม่มั่นใจเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาผมทั้งเดินทางมาสอบถามความคืบหน้าด้วยตัวเอง โทร.มาถาม และทำหนังสือ แต่ก็ไม่เคยมีความคืบหน้าใดๆ จึงอยากทราบว่าจะต้องรอจนพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์เกษียณหรือไม่ ซึ่งครั้งนี้แพทยสภารับปากว่าจะไต่สวนให้เสร็จภายในปีนี้" นายนพดลกล่าว

นายนพดลกล่าวต่อว่า จากการสอบถามความคืบหน้าล่าสุด พบว่าราชวิทยาลัยพยาธิ ตั้งคณะกรรมการใหม่

เพราะมีคณะกรรมการไปให้การในชั้นศาล ทำให้ต้องตั้งคณะกรรมการใหม่ ตนจึงสงสัยว่ามาตรฐานของการทำงานนั้นไม่เหมือนกัน เพราะกรณีพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์นั้น ออกมาวิจารณ์คดีนายห้างทองผ่านโทรทัศน์ ว่าเป็นการจัดฉากฆาตกรรมทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับคดี แต่อย่างไรก็ตามการที่ตนร้องเรียนต่อแพทยสภานั้น ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการที่กล่าวหาตน แต่เป็นเรื่องของจริยธรรมการประกอบวิชาชีพ ทั้งนี้จากหลักฐานทุกอย่าง ทั้งเอกสาร เทปคำพูดการให้สัมภาษณ์ของพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์จำนวนมาก ตนก็ไม่ทราบว่าจะต้องวิเคราะห์อะไรเกี่ยวกับจริยธรรมการทำงานอีก เพราะเห็นอยู่ชัดเจน

"หวังว่าเรื่องนี้คงลงเอยด้วยการมีคำตัดสินที่ยุติธรรม มิฉะนั้นเกิดวิกฤตศรัทธาต่อแพทยสภาจากประชาชนอย่างแน่นอน หวังว่ากรณีของผมจะเป็นรายสุดท้ายที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทั้งที่ผมมีพยานหลักฐาน หากแพทยสภาไม่สามารถให้ความเป็นธรรมได้ ประชาชนคนอื่นที่ไม่มีความรู้หรือสามารถหาพยาหลักฐานได้ ก็คงหวังพึ่งอะไรจากแพทยสภาไม่ได้อีก" นายนพดลกล่าว และว่าวันที่ 5 ต.ค.จะเดินทางไปสอบถามความคืบหน้าของการสอบสวนจากราชวิทยาลัยพยาธิ เพื่อขอทราบขั้นตอนกระบวนการอีกครั้ง

น.พ.อำนาจกล่าวประเด็นการสอบสวนจริยธรรมของคณะอนุกรรมการฯนั้น ตั้งประเด็นไว้ 3 ข้อคือ


1.เป็นการไม่รักษามาตรฐานการประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างดีที่สุดในเรื่องการผ่าชันสูตรศพนายห้างทอง ในการใช้วิธีทดลองวิถีกระสุนโดยใช้เรซินเป็นวิธีที่ได้มาตรฐานหรือไม่ 2.ในการออกใบรับรองแพทย์มีข้อความเป็นเท็จหรือความเห็นที่ไม่สุจริต ในการพิสูจน์ศพนายห้างทองหรือไม่ และ 3.ได้กระทำการฝ่าฝืนมาตรฐานการพิจารณาชันสูตรศพนายห้างทองทางนิติเวชวิทยาพยาธิแพทย์หรือไม่

"หลังจากชี้แจงเหตุผลต่างๆแล้วนายนพดลมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากราชวิทยาลัยฯให้ข้อมูลมาแล้วก็จะพิจารณาทันที โดยจะนำเอกสารข้อมูลทั้งหมดทั้งของนายนพดลและข้อมูลทางพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ และสำนวนการฟ้องร้องในชั้นศาลมาประกอบการพิจารณาด้วย และหากมีความจำเป็นก็จะต้องเชิญทั้งนายนพดลและพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์มาให้การอย่างละเอียดเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้หากพบว่ามีความผิดประเด็นใดประเด็นหนึ่งถือว่ามีความผิด ซึ่งขึ้นอยู่กับกรพิจารณาของคณะอนุกรรมการจริยธรรมว่าจะตัดสินอย่างไร ซึ่งตามหลักการหากแพทย์ทำผิดจริยธรรมก็จะถูกตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใบประกอบวิชาชีพชั่วคราวไม่เกิน 2 ปี และถอนใบประกอบวิชาชีพ" น.พ.อำนาจกล่าว

น.พ.อำนาจกล่าวด้วยว่า การที่มีเอกสารจำนวนมาก ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งให้เกิดความล่าช้า

อย่างไรก็ตามแพทยสภายืนยันไม่เคยมีการปกป้องแพทย์ไม่ว่าจะเป็นกรณี พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ หรือแพทย์อื่นๆ ที่ถูกฟ้องร้อง ซึ่งมีการลงโทษแพทย์ที่ทำความผิดจริยธรรมอยู่แล้ว ทั้งนี้แพทยสภาจะดูเอกสาร หลักฐานของทั้งสองฝ่ายอย่างละเอียดให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ และแม้ว่าความรวดเร็วจะมีความสำคัญแต่ความถูกต้องยุติธรรมมีสำคัญยิ่งกว่า เพราะหากไม่ผิดแล้วลงโทษก็จะเป็นการบั่นทอนกำลังใจแพทย์ แต่หากไม่ลงโทษก็เป็นการไม่รักษาจริยธรรมการแพทย์ ประชาชนไม่ยอมรับ

"ได้บอกกับนายนพดลว่าจะเร่งดำเนินการพิจารณากรณีนี้ให้เร็วที่สุด โดยได้โทรศัพท์เร่งให้ราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์ดำเนินการแล้ว คาดว่าจะสามารถสรุปการพิจารณาจริยธรรมเสร็จสิ้นเร็วที่สุดต้นปีหน้า ซึ่งนายนพดลเข้าใจ และจะรอผลการดำเนินการของแพทยสภา" น.พ.อำนาจกล่าว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์