กล่องดำ วัน ทู โก ถึงไทยแล้ว

3 จนท.ขนส่งทางอากาศไทย ขน 2 กล่องดำเครื่องบิน วัน ทู โก ถึงประเทศไทย


และเข้ารายงานข้อมูลเบื้องต้นให้อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศรับทราบ ระบุบริษัท โบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินลำเกิดเหตุขอข้อมูลบางอย่างจากกล่องดำ ก่อนใช้เวลาวิเคราะห์ 2 เดือน ส่วนผลสอบไทย อาจต้องเลื่อนไปอีก เพราะต้องรอผลสรุปโบอิ้งร่วมด้วย แต่เตรียมวิเคราะห์สรุปปัญหากับคณะอนุกรรมการสัปดาห์หน้า

นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ ยืนยันว่า

ขณะนี้เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางอากาศของไทยจำนวน 3 คนที่เดินทางไปร่วมตรวจพิสูจน์รหัสเสียงกล่องดำ 2 กล่องของเครื่องบิน วัน ทู โก ที่เกิดอุบัติเหตุที่สนามบินภูเก็ต เดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐถึงประเทศไทยวันนี้ (28 ก.ย.) เป็นที่เรียบร้อย และเมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คนได้เดินทางกลับมาที่กรมการขนส่งทางอากาศ และได้รายงานถึงขั้นตอนต่าง ๆ ในระหว่างที่ตรวจสอบที่ประเทศสหรัฐ ทั้งนี้ สำหรับข้อมูลจากกล่องดำทั้ง 2 กล่องนั้น ยืนยันว่ามีสภาพการถอดรหัสที่สมบูรณ์ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนหลังจากนี้จะนำข้อมูลที่ได้จากเจ้าหน้าที่มาวิเคราะห์


และนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มีนายวุฒิชัย สิงหเสนี รองอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ เป็นประธานในสัปดาห์หน้า เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลในเบื้องต้น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ไทยได้รายงานให้ทราบด้วยว่า ขณะนี้ตัวแทนบริษัท โบอิ้ง ที่เป็นผู้ผลิตเครื่องบินรุ่นเกิดเหตุ คือ MD (แมคโดนัลด์ ดักลาส) ได้ขอข้อมูลบางอย่างจากกล่องดำที่เจ้าหน้าที่ถอดรหัสได้ กลับไปวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท โบอิ้ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร

นายชัยศักดิ์ กล่าวด้วยว่า

การสอบสวนสรุปสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง นอกจากจะรอผลการวิเคราะห์จากคณะอนุกรรมการของนายวุฒิชัยแล้ว ยังต้องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ชุดที่มีนายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานก่อนด้วย และหากข้อมูลต่าง ๆ มีความสอดคล้องกัน ก็จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน ที่มี พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน และที่สำคัญจะต้องรอผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากบริษัท โบอิ้ง ที่ทราบว่าอาจจะใช้เวลาในการวิเคราะห์อีกอย่างน้อย 2 เดือนด้วย

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวคุณภาพดี โดย : INN NEWS

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์