ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 ก.ย.
นายสิงห์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี พร้อมด้วยนางเตือนใจ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี สองสามีภรรยา บ้านอยู่ ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ปนิธิ ชาอุ่น พนักงานสอบสวน สภ.อ.พระพุทธบาท ว่า ด.ญ.จอย (นามสมมติ) อายุ 12 ปี บุตรสาว เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนท้ายพิกุล ตั้งอยู่ ต.พระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท ถูกนักเรียนหญิงรุ่นพี่ตบตีจนสลบในห้องเรียน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระพุทธบาท
หลังทราบเรื่อง ร.ต.ท.ปนิธิ ชาอุ่น รีบเดินทางไป ตรวจดูอาการของ ด.ญ.จอย ที่โรงพยาบาล
พบแพทย์ให้ น้ำเกลือนอนอยู่บนเตียงคนไข้ จากการตรวจสอบตามร่างกายพบร่องรอยถูกทำร้ายที่ใบหน้าจนเป็นรอยช้ำแดง บริเวณหางคิ้วขวาและซ้ายมีรอยเล็บข่วน ศีรษะบวมช้ำ จากการถูกกระแทก ข้อศอกซ้ายและขวาเขียวช้ำ แพทย์สั่งให้นอนพักรักษาตัวรอดูอาการอีก 1 คืน
สอบสวน ด.ญ.จอย เหยื่อนักเรียนหญิงรุ่นพี่ ให้การถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. เวลาประมาณ 10.00 น. ขณะนั่งอยู่ในห้องพร้อมกับเพื่อนๆ ส่วนนางนิตยา ตรีชิด ครูประจำชั้นไปประชุมที่ห้องผู้อำนวยการโรงเรียน ได้มีกลุ่มนักเรียนหญิงรุ่นพี่ชั้น ม. 2 จำนวน 4 คน เดินเข้ามาหาที่โต๊ะ จากนั้น 1 ในนั้นตรงเข้ากระชากผมจนตกเก้าอี้ก่อนตบหน้าและจับศีรษะโขกกับพื้นอย่างแรงหลายครั้งต่อหน้าเพื่อนในห้อง ส่วนรุ่นพี่อีก 3 คน รุมล้อมตบมือส่งเสียงเชียร์พร้อมกับใช้โทรศัพท์ มือถือถ่ายคลิปวีดิโอไว้ กระทั่งตนสลบไปรุ่นพี่ทั้งหมดจึงหนีออกจากห้อง หลังเกิดเหตุเพื่อนๆรีบวิ่งไปบอกอาจารย์ ช่วยพาส่งโรงพยาบาล
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนท้ายพิกุลเพื่อขอทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าวจากนายพัลลภ นพคุณ ผู้อำนวยการโรงเรียน
แต่ทราบว่า นายพัลลภไม่อยู่ จึงโทรศัพท์สอบถามนางนิตยา ตรีชิด ครูประจำชั้นของ ด.ญ.จอย โดยได้รับทราบจากนางนิตยาว่า สาเหตุที่นักเรียนหญิงรุ่นพี่ ม.2 ตบรุ่นน้อง ม.1 น่าจะมาจากปัญหา มองหน้าเขม่นไม่ชอบหน้ากัน จนทำให้เกิดเรื่องขึ้น หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจแจ้งไปทางผู้ปกครองของกลุ่มนักเรียนหญิงรุ่นพี่ที่ก่อเหตุทั้ง 4 คน พร้อมทั้งไปเยี่ยม ด.ญ.จอยแล้ว โดยยินดีรับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ทั้งนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนจะรีบหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
ด้าน ร.ต.ท.ปนิธิ ชาอุ่น เปิดเผยว่า
เท่าที่สอบถาม เรื่องราวที่เกิดขึ้น ทราบว่ามาจากปัญหาเด็กไม่ถูกกัน โดยจะ เรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ทราบว่าทางโรงเรียนได้เรียกผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายมาตกลง เจรจาค่าชดใช้ ขณะนี้คงต้องรอให้ตกลงกันก่อน เนื่องจาก ผู้ปกครองของแต่ละฝ่ายก็รู้จักกัน หลังเคลียร์กันได้แล้วจะเรียกเด็กที่ก่อเหตุมาเปรียบเทียบปรับต่อไป เพราะคดีทำร้ายร่างกายนั้นยอมความไม่ได้ แต่ก็ต้องรอผลยืนยันอาการของเด็กจากแพทย์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง