นร.หญิงเมิน กกน. รมว.ว่าห้ามยาก

จากที่เป็นข่าวเกรียวกราวถึงเทรนด์แฟชั่นการแต่งตัวของนักเรียนหญิงในขณะนี้ ที่ไม่เพียงนิยมนุ่งกระโปรงสั้นกุดแล้ว ยังไม่ใส่กางเกงใน

ซึ่งเชื่อว่าเอาอย่างมาจากดารานักร้องต่างประเทศ ส่งผลให้หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ดูแลเยาวชนต้องหันมาดู โดยเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสแฟชั่นการแต่งตัวของนักเรียนหญิงใน จ.นครศรีธรรมราช ที่ไม่สวมกางเกงในว่า เรื่องนี้กระทรวงวัฒนธรรมไม่มีกฎหมายอะไรไปบังคับให้ต้องใส่กางเกงใน คงต้องใช้วิธีรณรงค์ให้พ่อแม่ช่วยหันมาเอาใจใส่ และเครือข่ายเฝ้าระวังวัฒนธรรมช่วยตรวจสอบ โดยกระทรวงศึกษาธิการน่าจะมีมาตรการอะไรออกมาดูแล

ทั้งนี้เป็นห่วงเรื่องกระแสตะวันตกทุกเรื่องที่เข้ามาในเมืองไทยนานแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้

เพราะเมื่อเรื่องนี้จางไป ก็มีเรื่องใหม่เข้ามา และไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร เพราะเราไม่มีมาตรการปิดกั้นสื่อ โดยเฉพาะทางอินเตอร์เน็ต ที่สำคัญคือวัยรุ่นไทยไม่มีภูมิคุ้มกันที่จะเลือกว่ากระแสอะไรควรหรือไม่ควรรับ แต่รับกระแสทุกเรื่อง และเชื่อว่าในวันข้างหน้าก็จะมีเรื่องอื่นที่ไม่ดีเข้ามาอีก ซึ่งการสร้างภูมิคุ้มกันให้วัยรุ่นต้องอาศัยบ้าน วัด โรงเรียนช่วยกัน โดยเฉพาะครอบครัวให้ช่วยปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้วัยรุ่นตั้งแต่แรก ส่วนวิธีป้องกันเรื่องนี้ก็คือ ถ้าทำผิดแล้วต้องลงโทษทันที รวมถึงให้โรงเรียนช่วยกันปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องด้วย 


ด้านผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการก็ดาหน้าออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ โดยนายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า

คิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แฟชั่น และไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าไม่ใส่กางเกงในแล้วแต่งตัวเหมาะสมหรือไม่ ถ้าแต่งตัวโป๊แล้วไปอยู่ในที่สาธารณะถือว่าไม่เหมาะสม แต่ถ้าไม่ใส่กางเกงในแต่ใส่โจงกระเบนมิดชิดเหมือนสมัยก่อน คงไม่มีใครว่า แม้จะไปอยู่ในสถานที่สาธารณะ เราควรแก้ปัญหาให้ตรงประเด็นคือ ไม่ให้ เด็กแต่งตัวโป๊ ประเจิดประเจ้อ บางครั้งเราพูดกันเลยเถิดเกินไป แต่ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าตนว่ารัฐมนตรีวัฒนธรรม

นายวรากรณ์ สามโกเศศ รมช.ศึกษาธิการ ก็กล่าวว่า

พฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม และขัดกับวัฒนธรรมไทยอย่างมาก แต่เป็นเรื่องที่ไม่น่าตื่นเต้น เพราะพฤติกรรมในลักษณะนี้มาแล้วก็ไป ในสมัยที่ตนยังเรียนอยู่ ก็เคยได้ยินในเรื่องลักษณะนี้มาแล้ว และก็หายไป แต่เป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัยของเด็กมากกว่า ส่วนคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า เด็กมีจำนวนถึง 10 ล้านคน เป็นไปได้ที่อาจจะมีบางส่วนประพฤติตัวไม่เหมาะสม ซึ่งจะกำชับให้สถานศึกษาดูแลพฤติกรรมของเด็ก เน้นระบบดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต้องตามไปแก้ไข เพราะถ้ายิ่งทำเป็นข่าวเกรียวกราวก็จะทำให้เด็กที่ไม่รู้กระทำตาม ส่วนกรณีที่เด็กนักเรียนอาจใช้สถานที่มุมอับ ลับตาในโรงเรียนเป็นสถานที่ที่มีเพศสัมพันธ์กันนั้น โรงเรียนก็ต้องแก้ไข ไปดูว่ามีจุดใดบ้างที่เป็นมุมลับตา และใช้ระบบดูแลนักเรียนเข้ามาแก้ไขพฤติกรรมของเด็กด้วย

ขณะที่นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า

ได้ประสานไปยังนายประพัฒน์พงศ์ เสนาฤทธิ์ คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทำวิจัยเกี่ยวกับปัญหาพฤติกรรมนักเรียน เพื่อจะได้นำข้อมูลดังกล่าวมาหาวิธีแก้ไขปัญหาพฤติกรรมนักเรียน ขณะที่นายพลเดช ปิ่นประทีป รมช.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องใช้ พลังทางสังคมเท่านั้นแก้ไข ต้องรณรงค์ให้สังคมเรียนรู้ เข้าใจความเหมาะสม ไม่เหมาะสม เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่สังคมจะตัดสินใจเองว่า อะไรเหมาะสม ไม่ เหมาะสม ในส่วนของผู้ปกครองก็ต้องดูแลเอาใจใส่ด้วย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์