กระทรวงวัฒนธรรมอึ้ง! กระแส น.ร.ใช้โรงเรียนแอบมีเพศสัมพันธ์
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ กระทรวงวัฒนธรรมอึ้ง! กระแส น.ร.ใช้โรงเรียนแอบมีเพศสัมพันธ์
ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมแฉ นักเรียนแอบใช้โรงเรียนเป็นที่มีเพศสัมพันธ์กันแล้ว
วิตกติดตั้งตู้หยอดเหรียญถุงยางอนามัยในสถานศึกษาจะยิ่งไปส่งเสริม ด้าน นร. บอกไม่แปลกเพราะมีมุมลับคนไม่พลุกพล่านเยอะตามดาดฟ้า มุมตึกและห้องที่ไม่ค่อยใช้งาน เผยบางคนเลิกเรียนแล้วไม่ยอมกลับบ้าน นั่งคุยกับแฟนจนค่ำมืด
เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวเปิดการสัมมนาพัฒนาระบบและเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม รุ่นที่ 1
โดยมีผู้แทนเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม 17 จังหวัดภาคกลาง รวมประมาณ 400 คน เข้าร่วมว่า ต้องยอมรับว่าโลกาภิวัตน์มีมาแต่สมัยโบราณแล้ว เพียงแต่คนในสมัยนั้นมีการกลั่นกรองรับเอาสิ่งที่ดีเข้ามา แต่ปัจจุบันนี้สื่อต่างๆ เข้ามาอย่างเร็วมากจนตั้งรับไม่ทัน ไม่ว่าจะเป็นสื่อโทรทัศน์ อินเตอร์เน็ตจนทำให้เกิดปัญหาขึ้น ประกอบกับในขณะนี้สถาบันหลักของสังคมไทยอย่างบ้าน วัด โรงเรียน เริ่มมีความอ่อนแอลงทุกวัน จนทำให้สิ่งไม่ดีเข้ามาสู่เด็กและเยาวชนได้ง่าย ทั้งนี้ แม้ว่าวัฒนธรรมดีๆ ของไทยจะเริ่มเลือนหาย แต่บทบาทหน้าที่ของ วธ.ก็ไม่มีอำนาจและกฎหมายอะไรที่จะไปบังคับ สิ่งที่ทำกันได้ก็คือสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วนในสังคมให้ช่วยกันสอดส่องดูแล และแจ้งเตือนหรือบอกกล่าวกันมาได้ เหมือนเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม
น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม วธ. กล่าวว่า
สภาพปัญหาเยาวชนไทยมีหลายเรื่องน่าเป็นห่วง ส่วนหนึ่งเกิดจากอิทธิพลกระแสโลกาภิวัตน์ที่เข้ามาในรูปแบบของสื่อร้าย 7 ชนิด อาทิ อินเตอร์เน็ต วิทยุ โทรทัศน์ สื่อลามก เป็นต้น อย่างเกมบางเกมที่เด็กเล่นมีความรุนแรง มีเรื่องลามกแอบแฝง จนทำให้เด็กรับเอาสิ่งไม่ดีเหล่านี้ ทั้งนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้เข้าร่วมสัมมนากับทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้รับข้อมูลจากอาจารย์คนหนึ่งว่า เริ่มมีปัญหามีนักเรียนใช้โรงเรียนเป็นสถานที่แอบมีเพศสัมพันธ์กันแล้ว ใครที่คิดว่าเด็กจะแอบไปมีเพศสัมพันธ์ที่อื่นนั้นคิดผิด
'ดังนั้น การปล่อยให้ติดตั้งตู้หยอดเหรียญถุงยางอนามัยในโรงเรียนอาจจะเป็นการส่งเสริมให้เด็กมีเพศสัมพันธ์กันได้ ทั้งนี้ การจัดสัมมนาครั้งนี้จะขอให้เครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมใน 17 จังหวัดสำรวจปัญหาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ และหากมีการขยายผลไปทุกจังหวัดก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะจะได้นำข้อมูลปัญหาที่พบเสนอต่อรัฐบาล เพื่อจัดทำเป็นวาระแห่งชาติในการแก้ไขต่อไป'
ด้าน น.ส.รัชญา บุญหลัง นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย กรุงเทพฯ กล่าวถึงปัญหามีนักเรียนใช้สถานที่โรงเรียนแอบมีเพศสัมพันธ์ว่า
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักเรียนจะใช้โรงเรียนเป็นสถานที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะภายในโรงเรียนมีมุมลับที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน ไม่ว่าจะเป็นบนดาดฟ้า หรือในห้องที่ไม่ค่อยเปิดใช้งาน หรือตามซอกมุมตึกของโรงเรียน ต้องยอมรับว่านักเรียนส่วนใหญ่จะมีแฟนเป็นเพื่อนในโรงเรียนเดียวกัน
'หากไม่สามารถควบคุมอารมณ์ก็อาจทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดได้ ยิ่งในปัจจุบันนี้หลายโรงเรียนละเลยความปลอดภัยในโรงเรียน โดยเฉพาะช่วงหลังเลิกเรียนและช่วงเช้ามืด เพราะมองว่าไม่น่าจะมีนักเรียนอยู่ในโรงเรียน ขณะที่นักเรียนบางส่วนมาโรงเรียนเช้ามาก บางคนเลิกเรียนไม่ยอมกลับบ้าน เพราะไม่อยากจากแฟน จึงนั่งคุยกันก่อนกลับบ้านจนค่ำมืด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วง อย่างไรก็ตาม ดิฉันยังไม่เคยได้ยินว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในโรงเรียนที่เรียนอยู่ขณะนี้'
นายทนง ศรีคุณูปการ นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนทวีธาภิเศก กรุงเทพฯ กล่าวว่า
มีความเป็นไปได้ที่นักเรียนจะใช้โรงเรียนเป็นสถานที่มีเพศสัมพันธ์กัน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากอารมณ์แปรปรวนของวัยรุ่น อยากรู้อยากลอง มองว่าการมีเพศสัมพันธ์ในโรงเรียนเป็นเรื่องท้าทาย ที่ผ่านมารุ่นพี่เคยเล่าให้ฟังว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นในโรงเรียนหลายแห่ง ดังนั้น สิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาได้คือพ่อแม่ต้องดูแลบุตรหลานให้ดี และเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนต้องเดินสำรวจบริเวณให้เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะช่วงหลังเลิกเรียน