ศาลนัดสืบพยาน ธ.ค.แม่น้องไทเกอร์จุดไฟเผาบ้านแม่ผัว

จากเรื่องราวชีวิตของ “น้องไทเกอร์” ด.ช.ธนากร พิศนุภูมิ อายุ 6 ขวบ นักแสดงละครเด็กในเรื่องฝนเหนือทางช่อง  7  และหนังเรื่องผีเลี้ยงลูกคนที่ฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์ขณะนี้ กำลังเดือดร้อนหนักเพราะกลัวแม่ติดคุก เมื่อนางปลายรุ่ง พิศนุภูมิ อายุ 45 ปี ผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้าที่เคยเป็นนางแบบห้องเสื้อระพี และยังลงสมัครประกวดนางสาวไทยปี 29 ก่อนไปทำงานเป็นผู้ประกาศข่าวกีฬาสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ถูกนายจิตินนท์ เหมทานนท์ อดีตสามีที่เป็นพ่อของน้องไทเกอร์ฟ้องร้องในคดีทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องพักเมื่อ 6 ปีก่อน
 

ที่ห้องพิจารณาคดีที่  601  ศาลอาญา  วันที่  24 ก.ย.

ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน  คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา  8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางปลายรุ่ง พิศนุภูมิ อายุ 45  ปี มารดาของ ด.ช.ธนากร หรือน้องไทเกอร์ พิศนุภูมิ อายุ 6 ขวบ นักแสดงเด็กที่แต่งชุดนักเรียนโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินทางมายังศาลพร้อมมารดา และ รศ.สุกรี รอดโพธิ์ รองคณบดีด้านแผนงบประมาณและการบริหาร คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ให้ความช่วยเหลือ 2 แม่ลูกรายนี้มาตลอด
 

โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่  7 ก.ค. 50  ระบุว่า

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 43 เวลากลางวัน นางปลายรุ่ง พิศนุภูมิ จำเลยได้วางเพลิง ซึ่งเป็นโรงเรือนของนางบวรจิต เหมทานนท์ ผู้เสียหาย มารดาของนายจิตตินนท์ เหมทานนท์ สามีจำเลย โดยมีคนอยู่อาศัยเป็นเหตุให้เพลิงลุกไหม้พื้นและฝาผนังบ้านได้รับความเสียหาย คิดเป็นเงิน 80,000 บาท เหตุเกิดที่หมู่บ้านปิ่นเจริญ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217, 218
 

นัดนี้พนักงานอัยการแถลงต่อศาลว่า  

ที่ผ่านมาจำเลยได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมมายังอัยการสูงสุด  พร้อมให้การรับสารภาพตามฟ้อง  อัยการจึงขอให้ศาลมีคำสั่งสืบพยานประกอบคำรับสารภาพของจำเลย โดยอัยการจะนำนางบวรจิต เหมทานนท์ ผู้เสียหาย ซึ่งขณะนี้พักอาศัยที่ประเทศอังกฤษ และพนักงานสอบสวนขึ้นเบิกความ เมื่อศาลสอบถามจำเลยแล้วไม่ได้คัดค้านจึงมีคำสั่งให้นัดสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ ในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
 

ภายหลังฟังการพิจารณา นางปลายรุ่งให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า จุดไฟจริง

แต่ไม่ได้เจตนา เพราะตอนนั้นรู้สึกโกรธและรู้สึกเบลอๆในการกระทำ ส่วนของค่าเสียหายทั้งหมดไม่สามารถชดใช้ให้ได้ เนื่องจากรายได้ที่มีอยู่มาจากการแสดงของลูกเท่านั้น เงินดังกล่าวต้องนำไปใช้เป็นค่ารักษาน้องไทเกอร์ ที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้และต้องเข้ารับการรักษาเป็นประจำ คดีที่เกิดขึ้นอยากให้จบโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นห่วงสภาพจิตใจและการเรียนของลูกที่ศึกษาในโครงการปัญญาเลิศของโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ  ที่ผ่านมาตนและลูกชายก็ไม่เคยเรียกร้องให้ทางฝ่ายอดีตสามีมาช่วยเหลือดูแลอะไร มีเพียงเพื่อนร่วมงานที่ช่อง 11 เท่านั้น ที่ช่วยกันเรี่ยไรเงินช่วยเหลือ

ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเป็นอย่างมากที่ช่วยตีแผ่ชีวิตจริงที่รันทดของดิฉันและบุตรชาย

จนทำให้ได้ รับความเมตตาจากกลุ่มเพื่อนๆพี่ๆสื่อมวลชน   นอกจากนี้ ยังมีนางเอกสาว อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ที่หลังจากอ่านข่าวของไทยรัฐแล้วเกิดรู้สึกสงสารได้ติดต่อผ่านมาทางพระนครฟิล์ม เพื่อขอหมายเลขบัญชีธนาคารของน้องไทเกอร์ไว้โอนเงินช่วยเหลือ ดิฉันซาบซึ้งและขอขอบคุณอั้มเป็นอย่างมาก และขอบคุณทุกคนที่มีความเมตตาปรานีกับลูกชาย อดีตผู้ประกาศข่าวสาวกล่าว
 

ด้านน้องไทเกอร์เผยทั้งน้ำตาว่า

รู้สึกสงสารแม่ที่ต้องมีคดีขึ้นศาล ทำให้ไม่มีสมาธิในการเรียนหนังสือ สงสัยว่าพ่ออยากให้ผมตาย ถ้าแม่ต้องติดคุกก็พร้อมจะเข้าไปอยู่ในคุกด้วย ตั้งแต่เกิดมาอยู่กับแม่มาตลอดไม่เคยเห็นหน้าพ่อ  และไม่อยากจะเจอด้วย  เพราะพ่อไม่เคยรับผิดชอบชีวิตตน   สำหรับอนาคตนั้นอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ เนื่องจากชื่นชอบวิชาคณิตศาสตร์