โวยจับแล้วปล่อย สาวแสบ สวมรอยมารับศพ

กรณีเหตุโศกนาฏกรรมของเครื่องบิน วัน ทู โก ที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ยังมีผู้บาดเจ็บนอนพักรักษาตัวอีกหลายราย

ส่วนศพชาวต่างชาติอีก 33 ศพ ยังรอญาติ นำหลักฐานมาแสดงนั้น แต่ขณะเดียวกัน มีคนสมอ้างเป็นญาติของเหยื่อเที่ยวบินมรณะเพื่อขอรับเงินชดเชย

โดยผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ว่า

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้มีหญิงวัยกลางคนอ้างชื่อว่านางจินตนา ภูมิคง ได้ปรากฏตัวที่ศูนย์พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ส่วนหน้าของท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมถือภาพถ่ายมา 1 รูป และจูงเด็กชายวัย 2-3 ขวบมาด้วย โดยแจ้งความประสงค์ว่าจะมาติดต่อขอรับศพนายโรเบิร์ต บอร์แลนด์ อายุ 47 ปี สามีชาวออสเตรเลีย และขอเงินชดเชย ที่สามีเสียชีวิตจากเครื่องบินวัน ทู โก โดยนำภาพถ่ายมายืนยัน 

ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามถ่ายภาพและสัมภาษณ์ รายละเอียด แต่นางจินตนาอ้างว่ายังอยู่ในความโศกเศร้า ไม่พร้อมให้ถ่ายภาพและสัมภาษณ์ได้ แต่พอเจ้าหน้าที่ศูนย์ขอหลักฐานของนายโรเบิร์ต แต่นางจินตนาไม่มีและรีบจูงเด็กวิ่งไปขึ้นรถเก๋งที่มีพระรูปหนึ่งนั่งรออยู่ ด้านหน้าขับหายไป ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบปรากฏว่านายโรเบิร์ตแค่บาดเจ็บรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพภูเก็ต ไม่ได้เสียชีวิตตามที่ถูกแอบอ้าง
 

ต่อมาทราบว่านางจินตนาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนหน้าเกาะพีพี อ.เมืองกระบี่ จับกุมตัวไว้ เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ร.ต.ท.ถาวร ศรีปล้อง พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองกระบี่ ประจำส่วนหน้าเกาะพีพี กล่าวว่า นางจินตนาถูกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ จ.ภูเก็ต ควบคุมตัวมาส่งให้สอบสวน แต่นางจินตนา ให้การปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นที่ถูกกล่าวหาว่าลวงโลกสวมรอยรับเงินชดเชยเหยื่อ “วัน ทู โก” ยืนกรานเป็นผู้บริสุทธิ์ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีหมายจับใดๆ จึงจำเป็นต้องปล่อยตัวไป แม้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำจะขอให้มีการคุมตัวไว้ก่อน แต่ไม่มีเจ้าทุกข์และหลักฐานมัดตัว อย่างไรก็ตาม หากมีผู้เสียหายก็สามารถแจ้งความได้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขออนุมัติหมายจับจากศาล
 

ภายหลังข่าวตำรวจที่เกาะพีพีปล่อยตัวนางจินตนา ทำให้ผู้เสียหายหลายรายที่ทราบข่าวและเตรียมจะเดินทางไปชี้ตัวต่างไม่พอใจ

รวมทั้งนางศิศิประภา แก้วกรอง นายประกันของนางจินตนา ที่ต้องชดใช้เงินประกันแก่ ศาล หลังนางจินตนาหนีประกันชั้นศาลในคดีลักทรัพย์ที่ จ.นครศรีธรรมราช ไม่พอใจที่ตำรวจเกาะพีพีปล่อยตัว นางจินตนาด้วย
 

จากการตรวจสอบทราบว่า

ในช่วงหลังเกิดเหตุสึนามิถล่ม นางจินตนาเคยถูกนางเง็กลั้ง แซ่ลิ้ม เจ้าของบังกะโลใน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา แจ้งความดำเนินคดีข้อหาที่เบี้ยวค่าห้องพักคืนละ 1,000 บาท นาน 1 เดือน แถมยังขโมยคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของบังกะโลหลบหนีไป และยังอ้างตัวเป็นผู้เสียหายจากคลื่นสึนามิถล่มแจ้งเท็จเบิกเงินช่วยจากทางจังหวัดพังงาไปจำนวนหนึ่งด้วย
 

ทางด้านอาการของผู้บาดเจ็บ นพ.สมโภชน์ นิปกานนท์ ผู้ช่วย ผอ.รพ.กรุงเทพภูเก็ต เปิดเผยว่า

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา แม่ชีทศพร ชัยประคอง จากวัดพิชยญาติการามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ได้เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุสายการบินวัน ทู โก ที่เป็นคนไทยทั้ง 5 รายเพื่อให้กำลังใจ
 

นพ.สมโภชน์ยังกล่าวถึงผู้บาดเจ็บที่ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.กรุงเทพภูเก็ต ว่า

ขณะนี้มีผู้บาดเจ็บได้รับอนุญาตให้กลับบ้านและประเทศได้แล้วจำนวนหนึ่ง คงเหลือผู้บาดเจ็บที่เป็นคนไทย 5 คน ต่างชาติอีก 12 คน โดยหนึ่งในผู้บาดเจ็บที่เป็นชาวต่างชาตินอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู แต่ทุกคนพ้นขีดอันตรายหมด
 

ขณะที่ นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า

ขณะนี้ผู้บาดเจ็บทุกรายอาการดีขึ้น รวมทั้งนายคริสโตเฟอร์ คูลเลย์ ชาวอังกฤษ ที่นอนอยู่ในห้องไอซียู รพ.กรุงเทพภูเก็ต แพทย์ได้ย้ายออกจากห้องไอซียูแล้ว อาการดีขึ้น ไม่มีไข้ ปอดทำงานได้ดี ส่วนนายทิบาวด์ โจเซฟ ลาแมร์ ชาวฝรั่งเศส ที่ได้รับบาดเจ็บสะโพกข้างขวาและขาข้างซ้ายหัก และมีปัญหาไตวายเฉียบพลันนั้น หลังจากได้ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแล้วทำให้การทำงานของไตดีขึ้นตามลำดับ หายใจได้เอง เป็นที่น่าพอใจของคณะแพทย์ แต่ยังคงให้รักษาตัวในห้องไอซียูไปก่อน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
 

ด้าน พล.ต.ท.วันชัย ศรีนวลนัด ผช.ผบ.ตร. ในฐานะ ผบ.ศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์ของบุคคล และการส่งกลับ เปิดเผยว่า

ขณะนี้ทางศูนย์ฯได้ส่งศพชาวต่างประเทศให้ญาติไปหลายรายแล้ว เหลือเพียง 10 ศพ ส่วนใหญ่เป็นชาวอิหร่าน ที่ต้องรอข้อมูลในการเปรียบเทียบจากทางญาติ ส่วนนายอุดม ตันติประสงค์ชัย กรรมการอำนวยการบริษัทโอเรียนท์ไทย จำกัด ผู้บริหารสายการบินวัน ทู โก กล่าวถึงการจัดทำบุญใหญ่เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตว่า นอกจากทางบริษัทจะจัดให้มีการทำบุญร่วมกับทางจังหวัดภูเก็ตและการท่าอากาศยานภูเก็ตแล้ว ยังได้จัดให้มีการทำบุญใหญ่ขึ้นเช่นกัน โดยจะทำหนังสือประสานไปยังญาติของผู้เสียชีวิตทุกคนเพื่อเชิญมาร่วมงานอีกครั้ง
 

ที่เมรุวัดไชยธาราราม หรือวัดฉลอง ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ได้มีพิธีฌาปนกิจศพนายชวภณ บุญมีมีไชย

ผู้บริหาร 8 บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ประจำ จ.ภูเก็ต 1 ในเหยื่อที่เสียชีวิตจากเที่ยวบินมรณะ และเป็นผู้โดยสารรายเดียวที่ญาติจะได้ค่าชดเชย 20 ล้านบาท จากบริษัทประกันภัยที่นายชวภณซื้อตั๋วเครื่องบินวัน ทู โก ผ่านบัตรเครดิตเคทีซีแพลทินัม ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งตัวแทนจากสายการบินวัน ทู โก สำหรับเงินประกัน 20 ล้านบาท ยังไม่ได้รับการติดต่อจากบริษัทประกันภัย ขณะที่นางอุษา บุญมีมีไชย ภรรยาของนายชวภณ ถูกนำส่ง รพ.สิริโรจน์กะทันหัน เนื่องจากกระเพาะอาหารอักเสบ เพราะนางอุษาไม่ได้กินอาหารตั้งแต่วันที่สามีเสียชีวิต
 

ส่วนที่วัดควนวิไลย หรือวัดส้มเฟือง

หมู่ 1 ต.บางด้วน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นายปริญญวิทย์ ชูแสง อายุ 23 ปี 1 ในผู้ที่รอดตายจากเหตุเที่ยวบินมรณะ ได้ทำพิธีทำบุญสักการะรูปปั้นหลวงพ่อแดง อินทสุวรรณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดควนวิไลย โดยนายปริญญวิทย์เชื่อว่า เหตุที่รอดตาย เนื่องจากบารมีของหลวงพ่อแดงคุ้มกัน พร้อมเล่ารายละเอียดว่า วันเกิดเหตุได้นั่งมาในเครื่องบิน ตรงช่วงกลางลำด้านซ้าย หมายเลข บี 20 ก่อนเกิดเหตุระทึก เครื่องบินกำลังลงแตะพื้นรันเวย์ เกิดอาการกระดอนขึ้นลงหลายครั้ง ก่อนจะแฉลบไปชนภูเขาหัก 2 ท่อน เห็นผู้โดยสารบางคนหลุดร่วงลงไปตามช่องที่หัก ตนพยายามช่วยเหลือบางคนที่อยู่ใกล้ตัว กระทั่งไฟลุกท่วมเลยถูกไฟลวกได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และเชื่อว่าที่รอดตายครั้งนี้ เชื่อว่ามาจากอำนาจปาฏิหาริย์ เหรียญหลวงพ่อแดงที่แขวนคออยู่อย่างแน่นอน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์