คนเหนือ-อีสานกินข้าวเหนียวแพง เหตุจีนกว้านทำน้ำสาเก

กรมการข้าว ห่วงคนภาคเหนือ-อีสานบริโภคข้าวเหนียวแพง


หลังราคาพุ่งไม่หยุด ล่าสุดขยับขึ้นเป็น 26-30 บาทต่อกิโลกรัม แฉตลาดจีนกว้านซื้อไม่อั้น เหตุพ่อค้านิยมนำไปทำน้ำสาเกและขนมป้อนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เตรียมเสนอแผนพัฒนาข้าวเหนียวฉบับแรกให้รัฐมนตรีพิจารณา เร่งพัฒนาสายพันธุ์ให้มีผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น


เมื่อวันที่ 16 กันยายน นายสุรพงษ์ ปรานศิลป์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า

หลังกรมการข้าวได้ศึกษาตลาดข้าวเหนียวในประเทศจีนมาระยะหนึ่ง พบว่าความต้องการข้าวเหนียวหรืออุปสงค์ของข้าวเหนียวในประเทศจีนยังคงมีค่อนข้างมาก พ่อค้าจีนยังคงสั่งซื้อไม่อั้น ในช่วงหลังถึงแม้จะมีคำสั่งซื้อเข้ามามาก แต่ปัญหาที่สำคัญคือสินค้ามีไม่พอขาย เราสามารถส่งออกได้เพียง 2 แสนตันเท่านั้น เพราะส่วนหนึ่งต้องกันไว้บริโภคภายในประเทศ

ทั้งนี้ ในปัจจุบันสถานการณ์ราคาข้าวเหนียวขยับขึ้นสูงค่อนข้างมาก

ราคาข้าวเปลือกข้าวเหนียวที่รับซื้อกันโดยทั่วไปอยู่ที่เกวียนละ 1.3 หมื่นบาท โดยประมาณ ขณะที่ข้าวเหนียวข้าวสารอยู่ที่ 28-30 บาทต่อกิโลกรัม ถือว่าเป็นราคาที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ปัญหาที่ตามมาคือ ประชากรของไทย โดยเฉพาะคนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ที่บริโภคข้าวเหนียวเป็นหลักต้องพลอยได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากราคาที่สูงขึ้น


“ในช่วงรัฐบาลก่อนๆ บูมข้าวหอมมะลิกันมาก ภาครัฐส่งเสริมให้ปลูกกันทั่วไปและรับจำนำในราคาไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาทต่อเกวียน ทำให้เกษตรกรส่วนหนึ่งหันไปปลูกข้าวหอมมะลิ พื้นที่ปลูกข้าวเหนียวจึงลดลง พอราคาข้าวเหนียวปรับสูงขึ้นก็ปรับตัวไม่ทัน จึงทำให้เกิดปัญหาสินค้าขาดตลาด”


จากการศึกษาตลาดข้าวเหนียวในประเทศจีนเบื้องต้น พบว่าพ่อค้าชาวจีนนิยมนำข้าวเหนียวไปทำเป็นขนมและน้ำสาเก (คล้ายเหล้าสาโท)


เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ที่หันมาเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศจีนมากขึ้น ประกอบกับช่วงนี้ทางการจีนไม่สามารถผลิตได้ทันต่อความต้องการ เพราะประสบปัญหาภัยธรรมชาติ จึงสั่งซื้อจากประเทศไทยเข้าไปทดแทน
 

“ก่อนหน้านี้ไทยส่งข้าวเหนียวไปยังประเทศญี่ปุ่นทุกปี เพราะคนญี่ปุ่นนิยมดื่มน้ำสาเก แต่พอนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางไปท่องเที่ยวจีน ก็ทำให้คนจีนต้องทำน้ำสาเกต้อนรับคนญี่ปุ่น และถ้าต่อไปคนจีนหันมาบริโภคน้ำสาเกเช่นกัน ตลาดข้าวเหนียวก็จะยิ่งสดใสมากขึ้น”


นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า จากสถานการณ์ตลาดข้าวเหนียวที่ค่อนข้างมีอนาคตอย่างมาก ทำให้ นายธีระ สูตะบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้กรมการข้าวจัดทำแผนพัฒนาข้าวเหนียวขึ้น

ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครสนใจพัฒนาข้าวเหนียวมาก่อน จึงทำให้พันธุ์ข้าวเหนียวไม่พัฒนาเท่าที่ควร ปัจจุบันมีอยู่เพียง 19 สายพันธุ์ และให้ผลผลิตต่อไร่ค่อนข้างต่ำ


พันธุ์ที่เรามีอยู่ในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์พื้นเมืองให้ผลผลิตค่อนข้างต่ำ พันธุ์ลูกผสมไม่ค่อยมี ในแผนส่วนหนึ่งต้องมีการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา แต่เราก็ต้องทำ เพื่อให้มีผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น”
 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมการข้าวอยู่ระหว่างการจัดทำแผนพัฒนาข้าวเหนียว

โดยได้ประชุมกันภายในกรมมาระยะหนึ่งแล้ว คาดว่าเร็ววันนี้จะนำเสนอแผนต่อรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา โดยแผนดังกล่าวมุ่งการพัฒนาสายพันธุ์ พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกข้าวเหนียวเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในอนาคต


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์