ท็อปบู๊ตทำวิจัยกั๊ก เกย์-แต๋ว รับราชการ
จากกรณีผู้แทนสาวประเภทสองและบุคคลที่มีพฤติกรรมทางเพศเบี่ยงเบน ทำหนังสือร้องเรียนมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ว่าถูกละเมิดสิทธิ เพราะใบผ่านเกณฑ์ทหาร หรือ สด.43 กลับระบุว่าเป็นโรคจิตทรามหรือโรคจิตรุนแรง ทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น ไม่สามารถสมัครงานได้ มีปัญหาการเดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงการศึกษาต่อ เป็นต้น เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 15 เม.ย. น.ส. นัยนา สุภาพึ่ง กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการเดินทางไปตรวจสอบการคัดเลือกทหารกองเกินประจำปี 2549 พบว่ากองทัพยอมแก้ไขข้อความซึ่งไม่มีการระบุว่าคนเหล่านี้เป็นโรคจิตเหมือนปีที่ผ่านมา แต่เลี่ยงใช้ข้อความอย่างอื่นแทน
การที่ระบุว่าพวกเขาเป็นโรคจิตในใบสด.43 ทำให้คนเหล่านี้ถูกเลือกปฏิบัติ แม้แต่การทำนิติกรรมก็ถูกนำไปอ้างว่าไม่สมบูรณ์ ส่วนการแก้ไขใบ สด.43 คงต้องใช้ระยะเวลา แต่หากนำ เรื่องฟ้องศาลปกครอง และนำคำพิพากษามาบังคับใช้ก็สามารถทำได้เลย น.ส.นัยนา กล่าว
ด้าน พ.อ.ชาติชาย หลักศรี ผู้อำนวยการกองสัสดี หน่วยบัญชาการกำลังสำรอง (นสร.) กล่าวถึงกรณีแก้ไขใบ สด.43 ดังกล่าว ว่าต้องใช้ระยะเวลาเพราะต้องแก้ไขกฎกระทรวง เข้าสู่การพิจารณาตามขั้นตอน ที่สำคัญคือคณะกรรมการตรวจเลือกทหารได้วินิจฉัยและเขียนเป็นเอกสารราชการไว้หมดแล้ว
รายงานข่าวจากกระทรวงกลาโหมแจ้งว่า ขณะนี้พบว่าสถิติบุคคลที่มีความแตกต่างทางเพศเข้ารับคัดเลือกเป็นทหารกองเกินเพิ่มสูงขึ้นมาก อย่างเช่นในปี 2549 พบว่าจากจุดคัดเลือกทั่วประเทศ 162 จุด ปรากฏว่าในแต่ละจุดมีบุคคลดังกล่าวประมาณ 3-5 คน ที่ผ่านมาได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ทหารถึงผลกระทบที่รับบุคคลเหล่านี้เข้าประจำการ ไม่ใช่เฉพาะแค่ทหารเกณฑ์เท่านั้นแต่ในส่วนของนายทหารชั้นสัญญาบัตรก็พบปัญหาเช่นกัน อย่างไรก็ตามทราบว่ามีนายทหารบางหน่วยเร่งเก็บข้อมูลเพื่อทำการวิจัยในเรื่องดังกล่าว เพื่อใช้เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป