สาดมาม่าคัพ เคลียร์กันได้ ขอโทษชดใช้

กรณีลูกสาว พ.ต.อ.นายแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ
 
มือสาดน้ำร้อนมาม่าคัพใส่หน้า น.ส.สุมาพร ลายกระ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ ในร้านเซเว่นฯสาขาอิสรภาพ 11 ย่านฝั่งธนบุรี จนเกือบเสียโฉม ต่อมา น.ส.อัญชิสา ประเวศตระกูลชัย ผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกายเข้าพบตำรวจให้การปฏิเสธ จะขอเคลียร์กับคู่กรณีก่อน

โดยความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น.
 
วันที่ 14 ก.ย. นายมนัส ลายกระ อายุ 42 ปี นำ น.ส.สุมาพร ลายกระ ลูกสาวถูกคู่กรณีสาดน้ำร้อนมาม่าคัพใส่หน้า ไปที่ สน.บางยี่เรือ เข้าพบ พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช ผบก.น.7 พ.ต.อ.พรชัย ไทยแท้ ผกก.สน.บางยี่เรือ พ.ต.อ.วรลภย์ สุวรรณเกษการ รอง ผกก.สส.สน.บางยี่เรือ เพื่อนัดคู่กรณีตกลงค่าเสียหาย ต่อมา พ.ต.อ.ศุภชัย ประเวศตระกูลชัย นายแพทย์ (สบ 4) กลุ่มงานผู้ป่วยนอก รพ.ตร. พ่อของ น.ส.อัญชิสา เข้าพบตำรวจเช่นกัน โดยแจ้งว่าลูกสาวติดเรียนไม่สามารถมาได้ ตำรวจให้ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 

จากนั้นนายมนัส ลายกระ พ่อของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า
 
ตำรวจติดต่อให้มาตกลงกับคู่กรณี ซึ่งก่อนหน้านี้ทางพ่อของ น.ส.อัญชิสาให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่าลูกสาวของตนเป็นเพื่อนกับ น.ส.อัญชิสา สมัยเรียนอยู่ ระดับมัธยม แล้วยังเคยไปขโมยโทรศัพท์มือถือของ น.ส. อัญชิสา เมื่อได้สอบถามลูกก็ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับคู่ กรณีมาก่อน เรื่องที่เกิดขึ้นลูกสาวก็บอบช้ำร่างกายมามากแล้ว ซ้ำยังมาถูกสังคมประณามว่าเป็นหัวขโมยอีก ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่เมื่อคู่กรณีมาตกลงยอมรับผิดและรับปากจะดูแลรักษาลูกของตนจนหายเป็นปกติ ก็ไม่ติดใจเอาความ เรื่องคดีก็แล้วแต่ตำรวจ

ส่วน น.ส.สุมาพร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า
 
ยังปวดแสบปวดร้อนที่บริเวณใบหน้า ช่วงเกิดเหตุก็รู้สึกโกรธแค้นคู่กรณี ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแล้วทำร้ายกันขนาดนี้ แต่เมื่อพ่อของ น.ส. อัญชิสามาขอโทษตนก็ยินดี และไม่ติดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่อยากฝากบอก น.ส.อัญชิสาว่า คิดจะทำอะไรก็ขอให้มีสติมากกว่านี้

ด้าน พ.ต.อ.ศุภชัย พ่อของ น.ส.อัญชิสา สาวเลือดร้อนเปิดเผยว่า
 
ขอรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ช่วงเกิดเหตุรู้สึกสับสนได้รับข้อมูลมาผิดๆ จนเกิดความเสียหายกับคู่กรณี เมื่อตำรวจนัดมาคุยได้กล่าวคำขอโทษกับ น.ส.สุมาพรและนายมนัส ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาล จะรับผิดชอบจนกว่า น.ส.สุมาพรจะหายเป็นปกติ ด้าน พล.ต.ต.วรัญวัสกล่าวว่า คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายสามารถตกลงกันได้ โดย พ.ต.อ.ศุภชัย พ่อของผู้ต้องหา ยอมชดใช้ค่า เสียหายและค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ส่วนเรื่องคดีพนักงานสอบสวนต้องดำเนินไปตามขั้นตอน พิจารณาไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างแน่นอน