วานนี้ (14 ก.ย.) พล.ท.จริยะ ทองทับ รักษาการผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ กล่าวว่า
จากกรณีที่กรมสรรพสามิต ปรับขึ้นภาษีบุหรี่ทำให้ราคาบุหรี่ปรับขึ้นอีกซองละประมาณ 1-2 บาทนั้น ได้ทำให้บุหรี่ไทยมีราคาใกล้เคียงกับบุหรี่ต่างประเทศ ผู้บริโภคหันมานิยมบุหรี่ต่างประเทศมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อรายได้ของโรงงานและรายได้ที่จะนำส่งรัฐ ลดลงกว่าร้อยละ 10
รักษาการ ผอ.โรงงานยาสูบ กล่าวต่อว่า
ผลกระทบดังกล่าว ทางโรงงานยาสูบได้พยายามรักษาสัดส่วนการครองตลาด ไม่ให้บุหรี่นำเข้ามามากกว่านี้ โดยจะเน้นเจาะกลุ่มร้านค้าปลีกมากขึ้น อย่างไรก็ตามในทางกลับกัน การปรับขึ้นราคาบุหรี่ดังกล่าว ก็ได้ส่งผลให้ผู้บริโภคสูบบุหรี่น้อยลงจากเดิมมีจำนวน 12 ล้านคน เหลือประมาณ 9 ล้านคน ทางโรงงานยาสูบ จึงได้ปรับเป้าหมายการผลิตลงเหลือปีละ 28,500 มวน จากเดิมตั้งเป้าที่ 29,500 มวน สอดคล้องกับนโยบายรัฐที่ต้องการลดปริมาณการสูบบุหรี่ของประชาชน
ทางด้านนางประภัสสร พงศ์พันธุ์พิศาล โฆษกโรงงานยาสูบ ยืนยันว่า
ยอดการจำหน่ายที่ลดลง จะไม่ส่งผละกระทบต่อแผนการก่อสร้างโรงงานยาสูบแห่งใหม่ ที่จะเกิดเพื่อรองรับกำลังการผลิต เนื่องจากได้มีการจัดสรรงบประมาณการก่อสร้างไว้แล้ว