เย็นตาโฟมรณะ ซอสปนสารหนู-ตะกั่วอื้อ

เย็นตาโฟมรณะ ซอสปนสารหนู-ตะกั่วอื้อ

สถาบันอาหารเผยซอสเย็นตาโฟสุดอันตราย หลังพบสารตะกั่ว สารหนู ปนเกินมาตรฐานหลายเท่าตัว ชี้หากบริโภคสัปดาห์ละ 3-4 มื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เสี่ยงอัมพาตหรือมะเร็งได้ อย.ยอมรับชาวบ้านร้องเรียนมาเพียบ เตรียมส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจ หากเกินมาตรฐานจับดำเนินคดี

สถาบันอาหารสุ่มเก็บตัวอย่างซอสเย็นตาโฟที่วางขายอยู่ตามท้องตลาด พบว่ามีการผสมสารโลหะหนักเกินกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนดหลายเท่าตัว ทั้งนี้ น.ส.นฤมล คงทน นักวิชาการข้อมูล สถาบันอาหาร เปิดเผยว่า จากการสุ่มเก็บตัวอย่างซอสเย็นตาโฟที่วางขายอยู่ตามท้องตลาด นำมาวิเคราะห์หาค่าตกค้างของสารสีแดง หรือ สารปองโซ 4 อาร์ (Ponceau 4 R) ซึ่งเป็นสีผสมอาหารที่ได้รับอนุญาตจาก อย.แต่ต้องไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัม แต่จากการตรวจสอบพบว่า มีซอส 5 ยี่ห้อพบปริมาณสารของสีปองโซ 4 อาร์ สูงถึง 109.05-275.70 มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัม

"ผู้บริโภคที่ชอบรับประทานเย็นตาโฟ เฉลี่ยสัปดาห์ละ 3-4 วัน หรือทุกวัน แล้วบังเอิญรับประทานเย็นตาโฟที่ใช้ซอส ซึ่งมีส่วนผสมของสีปองโซ 4 อาร์ เกินปริมาณที่กำหนด สารเหล่านี้จะตกค้างอยู่ในร่างกายจำนวนมาก เพราะร่างกายขับถ่ายออกมาไม่หมด แม้สารตัวนี้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายทันที เหมือนกับเชื้อโบทูลินั่ม แต่ในระยะยาวสารตัวนี้ก่อในเกิดโรคมะเร็งได้" น.ส.นฤมล กล่าว

นักวิชาการข้อมูล สถาบันอาหาร กล่าวด้วยว่า หากผู้บริโภคต้องการรับประทานเย็นตาโฟ ควรเลือกร้านที่ซอสทำมาจากเต้าหู้ยี้ เพราะจะไม่มีสีสังเคราะห์ผสมอยู่ หรืออย่าเลือกกินของร้านที่มีซอสสีแดงสดจนดูน่ากลัว ขณะเดียวกันเจ้าของร้านก็ควรเลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคด้วย อย่าคำนึงแต่ราคาถูกเท่านั้น

ข้อมูลจากสถาบันอาหาร ระบุว่า สีปองโซ 4 อาร์ เป็นสีสังเคราะห์ที่ให้สารสีแดง ซึ่งสีสังเคราะห์ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว สารหนู โครเมียม สังกะสี โดยเฉพาะสารหนูถ้าเข้าไปสะสมในร่างกายมากๆ จะทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ และโลหิตจาง นอกจากนี้ สารตะกั่วยังมีพิษต่อระบบประสาท ทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง อาการพิษเรื้อรังนั้นจะพบเส้นสีม่วงคล้ำที่เหงือก มือตก เท้าตก คลื่นไส้ อาเจียน เป็นอัมพาต และอาจพบอาการทางระบบประสาทได้

ด้าน นายสมใจ สุตันตยาวลี หัวหน้ากลุ่มกำกับดูแลหลังออกสู่ตลาด กองควบคุมอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า สีปองโซ 4 อาร์ เป็นสีสังเคราะห์ที่ให้สีแดงได้รับอนุญาตให้ใช้ผสมในอาหารบางชนิด แต่ต้องไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัม ตามที่ อย.กำหนด หากพบผู้ผลิตรายใดใช้สีปองโซ 4 อาร์ เกินกว่าที่กำหนด จะมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และถ้าผสมเกินกว่า 1,000 มิลลิกรัม ขึ้นไป จะมีโทษจำคุก เนื่องจากเข้าข่ายเป็นอาหารอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน

"ปริมาณสีปองโซที่สถาบันอาหารตรวจพบในซอสเย็นตาโฟ อยู่ที่ 100-300 ถือว่ายังไม่เป็นอันตราย ร่างกายสามารถขับถ่ายสารพิษออกมาได้เอง แต่ถ้าเป็นคนที่มีร่างกายไม่แข็งแรง หรือแพ้สารเคมีบางชนิด หากได้รับเข้าไปในปริมาณที่มาก และต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้น พ่อค้าแม่ค้าที่จำเป็นต้องใช้ซอสเย็นตาโฟ ควรจะเลือกใช้ของบริษัทที่มีตรา อย.กำกับอยู่เท่านั้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ส่วนผสมที่ใช้ไม่มีอันตรายต่อผู้บริโภค" นายสมใจ กล่าว

นายสมใจ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเข้ามาเรื่อยๆ เกี่ยวกับสีของซอสเย็นตาโฟที่อาจจะดูสดหรือแปลกไป เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ทำอาจจะแตกต่างกัน เมื่อเจ้าหน้าที่นำซอสดังกล่าวไปตรวจสอบยังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อวิเคราะห์ว่าสีแแดงที่ใช้ผสมในซอสเย็นตาโฟทำมาจากอะไร เป็นสีสังเคราะห์ สีธรรมชาติ หรือสารเคมีต้องห้ามหรือไม่ หากตรวจพบว่าใช้สารต้องห้าม หรือใช้สารเกินปริมาณที่กำหนด จะถูกดำเนินคดีทันที ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 281 (พ.ศ.2547)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์