ย้ายกะเหรี่ยงคอยาวไปอยู่ที่ใหม่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ก.ย. นายวรศักดิ์ พานทอง รองผบ.ร้อย กองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 1 จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยกำลังอาสารักษาดินแดนจำนวน 25 นาย ได้เข้าไปดำเนินการขนย้ายกะเหรี่ยงคอยาว บ้านห้วยเสือเฒ่า หมู่ที่ 8 ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยใช้รถบรรทุกจำนวน 3 คัน บรรทุกสิ่งของ เครื่องใช้ และเครื่องเรือน ของกะเหรี่ยงคอยาวจำนวน 8 ครอบครัว ที่สมัครใจจะย้ายไปอยู่ที่บริเวณพื้นที่บ้านห้วยปูแกง ซึ่งเป็นสถานที่ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้เพื่อรองรับกะเหรี่ยงคอยาว จากสองหมู่บ้าน คือ หมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า หมู่ 8 ต.ผาบ่อง และบ้านในสอย หมู่ 4 ต.ปางหมู

ตนเองและครอบครัวรวมทั้งคนอื่นๆ ได้สมัครใจที่จะย้ายไปอยู่ในที่แห่งใหม่ ที่ทางจังหวัดจัดให้ เนื่องจากตนอาศัยอยู่ที่บ้านห้วยเสือเฒ่ามากว่า 10 ปี แต่ชีวิตก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เอ็นจีโอก็ไม่เคยมาเหลียวแล หรือช่วยเหลือใดๆ อีกทั้งบ้านของตนก็อยู่ท้ายตรอกแคบๆ เมื่อมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวก็จะถูกคนอื่นๆ ตัดหน้า ทำให้ไม่ค่อยมีรายได้เท่าไหร่นัก จึงคิดว่าหากย้ายไปอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ และมีสถานที่อยู่กว้างขวาง จึงน่าจะรองรับนักท่องเที่ยวได้มากกว่า และดีกว่าอาศัยอยู่ที่เดิม ประกอบทางราชการต้องการให้ย้ายจึงน่าจะให้ความร่วมมือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการย้ายกะเหรี่ยงคอยาวในครั้งนี้พบว่า มีผู้ประสงค์ที่จะย้ายคิดเป็นร้อยละ 10 ของจำนวนกะเหรี่ยงคอยาวทั้งหมดเท่านั้น

สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากเคยอาศัยอยู่ในที่สะดวกสบาย และมีสาธารณูปโภคครบครัน ทั้งไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ ที่มีทั้งระบบมือถือ และตู้โทรศัพท์ขององค์การโทรศัพท์ นอกเหนือไปจากนั้นคือการที่มีกลุ่มอิทธิพล ที่มีรายได้จากกะเหรี่ยงคอยาว และเสียประโยชน์จากการย้ายกะเหรี่ยงคอยาว ได้ปลุกระดมให้ต่อต้านและให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงและมีการประท้วงมาแล้วหลายครั้ง ทำให้กลุ่มธุรกิจส่วนอื่นๆ ได้รับผลกระทบตามไปด้วย