กรณีน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติภูเปลือยและภูขี้เถ้าไหลบ่าเข้าท่วมบ้านน้ำพุง หมู่ 3 ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลยกระแสน้ำซัดบ้านเรือนพังราบเป็นหน้ากลอง ส่งผลให้มีชาวบ้านสังเวยชีวิต 2 ศพ สูญหาย 1 คน นอกจากนี้ น้ำยังทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านหนองใหญ่ หมู่ 1 และบ้านแก่งโตน หมู่ 2 ต.นาซำ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นเขตรอยต่อได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้างและมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ สูญหาย 1 คน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนนั้น
ความคืบหน้าการค้นหาศพผู้สูญหายจากเหยื่อน้ำป่า เมื่อเช้าวันที่ 11 ก.ย.
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกับ อปพร. อส. ทหารพราน และตำรวจ ตชด. ระดมกำลังออกค้นหาศพนายสมย้าย อินสา อายุ 40 ปี ชาวบ้านน้ำพุง ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย กระทั่งเวลา 12.00 น. ปรากฏว่าพบศพถูกกระแสน้ำซัดเข้ามาในพื้นที่บ้านแก่งโตน ต.นาซำ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ โดยถูกเศษใบไม้เศษหินและดินทรายทับเกือบมิดร่าง จากนั้นเจ้าหน้าที่นำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านน้ำพุงร่วมกับนางโสมยุพิน ศรีชามก และ ด.ช.กิจวัตร ศรีชามก เมียและลูกที่พบศพก่อนหน้านี้
ส.ต.อ.สุขสันต์ สุขใจ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลโป่ง อ.ด่านซ้าย กล่าวว่า
ครอบครัวที่เสียชีวิตมีด้วยกัน 3 คน คือพ่อแม่และลูก ปลูกบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำพุง เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากทำให้บ้านพังเสียหายและเสียชีวิตทั้งหมด สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้น ผวจ.เลยได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 40,000 บาท ส่วนความเสียหายบ้านน้ำพุงมีบ้านเสียหายทั้งหลังจำนวน 1 หลัง และเสียหายบางส่วน 10 หลัง สำหรับการป้องกันขณะนี้ได้อพยพพี่น้องประชาชนที่อยู่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำขึ้นไปอยู่ที่สูงแล้ว
ส่วนการช่วยเหลือชาวบ้านใน ต.นาซำ อ.หล่มเก่าจ.เพชรบูรณ์ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่า อ.ด่านซ้าย วันเดียวกัน
นายต่อพงษ์ อ่ำพันธุ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วยนางนิภา อ่ำพันธุ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ และนายสมพงษ์ อรุณโรจน์ปัญญา รอง ผวจ.เพชรบูรณ์ เดินทางไปมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้เสียชีวิตครอบครัวละ 25,000 บาท ประกอบด้วยครอบครัวนางกูด แก้วเข้ม และเด็กหญิงพัชราภรณ์ พรหมพวง 2 เหยื่อน้ำป่าเคราะห์ร้ายที่พบศพแล้ว ส่วนนางจำปี แก้วเข้ม ญาติของนางกูด ที่กำลังตั้งท้อง4 เดือนและถูกน้ำซัดหายไปยังค้นหาศพไม่พบ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างค้นหา นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน คือนายผัด ลานรอน อยู่ บ้านเลขที่ 12 หมู่ 1 บ้านหนองใหญ่ ต.นาซำ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ขณะที่ความเสียหายมีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลังจำนวน 6 หลัง และเสียหายบางส่วน 657 หลัง สะพานพัง 2 แห่ง คอสะพานชำรุด 2 แห่ง และสะพานแขวนขาด 1 แห่ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์ล่าสุดขณะนี้
น้ำในแม่น้ำพุงจาก อ.หล่มเก่า ไหลลงไปถึงพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ แล้ว ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นทะลักเข้าท่วมถนนในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก แต่ไม่รุนแรง เนื่องจากนางฐิตินันท์ พั้วช่วย นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหล่มสัก สั่งให้ขุดลอกท่อระบายน้ำเตรียมพร้อมป้องกันไว้แล้ว
นายต่อพงษ์ อ่ำพันธุ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า
พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยจึงไม่ได้มีการป้องกันหรือเตือนภัยแก่ราษฎร แต่เป็นน้ำป่าที่ทะลักมาจาก อ.ด่านซ้าย จ.เลย
ด้านนายสมพงษ์ อรุณโรจน์ปัญญา รอง ผวจ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า
สาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมมากมาจากป่าไม้ถูกทำลายไปมาก ส่งผลให้เกิดโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ ต้องหาทางแก้ไขในระยะยาวต่อไป สำหรับความช่วยเหลือนั้นได้มีเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์นำถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 1,000 ชุด มามอบให้แก่ราษฎร และมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก จัดตั้งโรงประกอบอาหารให้แก่ผู้เดือดร้อนเป็นเวลา 3 วัน
ที่ จ.เชียงราย ฝนที่ตกหนักติดต่อกันกว่า 2 วัน ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาดอยบ่อไหลลงสู่ลำห้วยโป่งพระบาททะลักเข้าท่วมพื้นที่ อ.เมือง
โดยเฉพาะหมู่ 7 หมู่ 18 และหมู่ 13 ต.บ้านดู่ ระดับน้ำสูงกว่า 30 ซม. ชาวบ้านต้องขนข้าวของหนีน้ำ นายวินัย สุวรรณโสภิต นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านดู่ เข้าไปสำรวจ พบชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 20 หลังคาเรือน ถนนสายบ้านดู่-โป่งพระบาท บริเวณหมู่ 7 ซึ่งเป็นถนนเข้า สู่น้ำตกโป่งพระบาท แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัด ถูกกระแสน้ำซัดขาดต้อง สั่งปิดชั่วคราว
ส่วนที่ อ.เทิง น้ำจากดอยเชียงเคี่ยนและน้ำแม่ลอยไร่เอ่อล้นเข้าท่วม 11 หมู่บ้าน
ได้แก่หมู่ 14 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 4 และหมู่ 11 ต.หงาว และหมู่ 1 ต.ปล้อง หมู่ 3 ต.เวียง หมู่ 3 หมู่ 4 หมู่ 7 ต.ศรีดอนชัย และหมู่ 7 ต.เชียงเคี่ยน ทางอำเภออยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย ขณะที่ อ.เชียงของ แม่น้ำโขงมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นกว่า 8 เมตร เกือบถึงจุดวิกฤติที่ 11 เมตร โดยพื้นที่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำตั้งแต่ ต.ศรีบุญเรือง-ต.ริมโขง บางจุดเริ่มมีน้ำเอ่อล้นบ้างแล้ว
ขณะที่นายพิเศษ ผาติสุวัณณ ผู้อำนวยการแขวงการทางเชียงรายที่ 2 ได้ประกาศปิดถนนสายบ้านร่มโพธิ์เงิน-บ้านร่มฟ้าหลวง ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 6-14 ก.ย. เป็นเวลา 9 วัน สาเหตุมาจากฝนตกหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้น้ำไหลกัดเซาะสะพานข้ามลำน้ำเขตหมู่บ้านร่มโพธิ์เงินชำรุดเสียหายใช้การไม่ได้
นพ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า
ในวันที่ 12 ก.ย. จะเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่บ้านแก่งโตน ต.นาซำ อ.หล่มเก่า ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ประมาณ 600 หลังคาเรือน พร้อมทั้งนำทีมนักวิชาการควบคุมโรคไปประเมินวางแผนช่วยเหลือป้องกันการเกิดโรคระบาดภายหลังน้ำลด อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการทุกวัน โดยเน้นให้ดูแลบาดแผลผู้บาดเจ็บทุกราย แม้กระทั่งแผลถลอกเล็กน้อยก็ตามก็ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากแผลอาจเกิดการอักเสบได้ ที่น่าห่วงก็คือเชื้อบาดทะยัก
ส่วนนายณัฐฐวัฒน์ สุทธิโยธิน ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยสั่งการในที่ประชุมให้กระทรวงมหาดไทยเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และในวันที่ 16 ก.ย. นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัยเรื่อง “ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน” ฉบับที่ 6 ระบุว่าร่องความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ต่อเนื่องไปอีก 1-2 วัน ขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่ลาดเชิงเขา และใกล้ทางน้ำไหลผ่าน โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย ชัยภูมิ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ สำหรับระดับน้ำในลุ่มน้ำป่าสักสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มไหลเข้าท่วม อ.เมืองเพชรบูรณ์ ภายใน 1-2 วันนี้ ส่วนลุ่มน้ำน่านบริเวณ จ.น่าน และลุ่มน้ำชี บริเวณ จ.กาฬสินธุ์ มีโอกาสน้ำล้นตลิ่งใน 1-2 วันนี้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่งไว้ด้วย