ชาวบ้านกว่า 2 พัน ฮือบุกสุวรรณภูมิ

กลุ่มชาวบ้านออกมาประท้วงที่ท่าอากาศยายสุวรรณภูมิ


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 ก.ย. กลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเสียงเครื่องบินที่ขึ้น-ลงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จาก 32 หมู่บ้านรอบท่าอากาศยานฯ กว่า 2 พัน พากันถือป้ายประท้วงและเดินขบวนจากหมู่บ้านร่มฤดี หมู่ 3 แขวงคลอง 3 ประเวศ เขตลาดกระบัง กทม. มาตามถนนร่มเกล้า มุ่งหน้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นระยะทางเกือบ 10 กม. ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนจ้า เมื่อชาวบ้านเดินมาถึงถนนบายพาส บริเวณด้านหน้าคลังสินค้าศุลกากรสุวรรณภูมิ ได้ถูกเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานฯจัดชุดเข้าเจรจาเกลี้ยกล่อม ไม่ให้เดินทางเข้าไปยังท่าอากาศยานฯได้ แต่การเจรจาไม่ประสบผล สำเร็จ กลุ่มชาวบ้านจึงเดินต่อไปจนถึงทางขึ้นยกระดับเข้าอาคารผู้โดยสาร แต่ถูกชุดรักษาความปลอดภัยจำนวน 30 นายเข้าสกัดกั้นไม่ให้ชาวบ้านเดินขึ้นไปได้ พร้อมทั้งนำรถยนต์มาขวางไว้ ทำให้เกิดการปะทะกันเล็กน้อย แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทานแรงชาวบ้านได้ ชาวบ้านจึงเดินขึ้นทางยกระดับไปได้ จนถึงอาคารผู้โดยสารชั้น 4 ประตู 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจลของ กก.ภ.จ.สมุทรปราการ จำนวน 100 นาย พร้อมโล่และกระบอง ได้นำเอาแผงเหล็กมากั้น ไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินเข้าไปยังอาคารผู้โดยสาร โดยกลุ่มชาวบ้านและแกนนำผู้เดินขบวนได้ปราศรัยโจมตีการทำงานของการท่าฯอย่างหนัก
 

นายวันชาติ มานะธรรมสมบัติ แกนนำชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเปิดเผยว่า

เหตุที่ชาวบ้านต้องเดินทางมาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิครั้งนี้ เพราะสุดทนกับปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้นทางตัวแทนและชาวบ้าน จะมายื่นหนังสือเรียกร้องการชดเชย พร้อมกับนำเค้กดอกไม้จันทน์มามอบให้กับนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา และรู้สึกเสียใจมากที่เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานฯได้มา สกัดกั้นไม่ให้ชาวบ้านเดินทางเข้ามา เพราะหากชาวบ้านไม่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆคงไม่เดินมากลางแดดหลายกิโลเมตรเช่นนี้ พวกตนต้องการเพียงแค่มายื่นหนังสือและนั่งระบายถึงความเดือดร้อนที่ได้รับ ไม่กี่ชั่วโมงก็สลายตัวกลับบ้านแล้ว จากนี้พวกตนจะเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคณะรัฐมนตรี ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่จะเว้นไม่ ดำเนินคดีเฉพาะนายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเห็นว่าที่ผ่านมาตั้งใจแก้ปัญหาให้ชาวบ้านเป็นอย่างดี 


ต่อมานายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ ผวจ.สมุทรปราการ ซึ่งเดินทางมาควบคุมสถานการณ์ ได้กล่าวกับชาวบ้านที่มาประท้วงว่า


จังหวัดมีข้อมูลเบื้องต้นและได้ประสานงานไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว แต่เนื่องจากว่า ผวจ.ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่ได้พยายามประนีประนอม เพื่อต้องการให้ชาวบ้านเข้าใจ โดยให้ชาวบ้านส่งแกนนำร่วมเข้าหารือกันอีกครั้ง โดยทาง รมว.คมนาคม จะนำปัญหาต่างๆเข้าหารือและประชุม   เพื่อหาทางออกในวันที่ 10 ก.ย.
 

ขณะเดียวกันแกนนำชาวบ้านได้พูดโต้ตอบกลับมาว่า

เมื่อรัฐบาลรับเรื่องไปแล้วแต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พวกเราเดือดร้อนจึงได้เดินทางมา แต่พวกท่านก็ไม่เคยมาดูแลเลยว่า ได้รับความเดือดร้อนมากน้อยแค่ไหน เรามาวันนี้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและจะขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย แต่หากการเจรจาในวันรุ่งขึ้นได้รับคำตอบไม่เป็นที่พอใจ พวกเราก็จะอยู่กันที่บ้านและจะไม่มีสนามบินสุวรรณภูมิอีก โดยครั้งนี้พวกเราจะปล่อยลูกโป่งอย่างแน่นอน พร้อมกันกลุ่มชาวบ้านยังได้เรียกร้องให้ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิชี้แจงเหตุผลที่ไม่ยอมติดตามค่าชดเชยให้แก่ชาวบ้าน
 

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคัก

เพราะบรรดาแกนนำจากหมู่บ้านและชุมชนต่างๆผลัดกันขึ้นเวทีปราศรัยประกาศข้อเรียกร้อง และโจมตี ทอท. เกี่ยวกับการปฏิบัติงานที่ผ่านมา กระทั่งเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เดินทางมาพบกลุ่มชาวบ้าน และรับหนังสือเรียกร้องค่าชดเชย พร้อมกล่าวว่า ได้รับการติดต่อและประสานงานมาจากเลขานุการกระทรวงคมนาคมว่า ให้กลุ่มชาวบ้านที่เดือดร้อนส่งตัวแทนจำนวน 5 คน เข้าไปพูดคุยกับ รมว.คมนาคมพร้อมกับบอร์ดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลา 13.00 น. วันที่ 10 ก.ย. ที่กระทรวงคมนาคม เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ทำให้กลุ่มชาวบ้านพอใจ และแยกย้ายกลับบ้านไปโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆเกิดขึ้น โดยทางท่าอากาศยานได้จัดรถบัสให้ผู้ชุมนุมนั่งกลับบ้านด้วย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์