สำหรับวันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2560 เวลา 10.30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมายังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะ กราบถวายบังคมพระบรมศพ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูปที่สวดพระพุทธมนต์แต่ วันก่อน ถวายพรพระจบ ทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ทั้งนั้นถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่ง เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์อีก 89 รูปเท่าพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สวดมาติกา สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินกลับ
สำนักพระราชวัง ได้เชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่า ทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วทุกมุมโลก ร่วมส่งภาพแห่งความทรงจำและระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในมุมมองต่างๆ ที่ประชาชนได้บันทึกภาพไว้นับแต่วันเสด็จสวรรคต วันที่ 13 ต.ค. 2559 ตลอดระยะเวลา จนถึงปัจจุบัน ได้บันทึกภาพการเดินทางมากราบถวายสักการะพระบรมศพ และการทำกิจกรรมจิตอาสาในด้านต่างๆ ที่ประชาชนมุ่งปฏิบัติ เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และน้อมถวายพระราชกุศล ซึ่งความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงมีพระราชดำริที่จะให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการประมวลภาพเหตุการณ์แห่งความทรงจำ นับแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต ซึ่งบันทึกไว้ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 เป็นต้นมา เพื่อรวบรวมไว้เป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงความจงรัก ความภักดี และความศรัทธาของปวงเหล่าพสกนิกรที่มีต่อพระองค์ อันจะเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติ โดยมีพระราชดำริให้นำภาพที่จัดส่งมาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ไปจัดแสดงให้ประชาชนได้ร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหา กรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทยและประเทศชาติตลอดไป
ประชาชนสามารถจัดส่งภาพเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรก ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2560 และช่วงที่สอง หลังพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 โดยส่งภาพได้ไม่เกินคนละ 10 ภาพ และมีความละเอียดของภาพไม่เกิน 3 MB (เมกะไบต์) โดยระบุชื่อและนามสกุลของผู้ถ่ายภาพ วัน เวลา และสถานที่ของภาพ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ และส่งมาที่อีเมล์ photoking9@mail.go.th ทางเว็บไซต์ https://photoking9.ohm.go.th หรือทางไปรษณีย์ ที่ สำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ 904 พระที่นั่งอัมพรสถาน ถนนนครราชสีมา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 หรือที่ ฝ่ายทะเบียนกองกลาง อาคาร 601 สำนักพระราชวัง (สนามเสือป่า) ถนนศรีอยุธยา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300, กองเผยแพร่พระราชกรณียกิจ สำนักพระราชวัง อาคารศาลาลูกขุนใน ถนนหน้า พระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
อนึ่ง ผู้ส่งภาพเข้าร่วมกิจกรรมยินดีให้ส่วนราชการในพระองค์ นำภาพไปเผยแพร่ประชา สัมพันธ์ได้ สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://photoking9.ohm.go.th และสอบถามที่ 0-2220-7200 ต่อ 3401-3407
ที่กระทรวงกลาโหม กองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (กอร.พระราชพิธีฯ) แถลงข่าวจุดพระเมรุมาศจำลอง ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ในพื้นที่ กทม. ต่างจังหวัดและต่างประเทศ รวมถึงแนวทางปฏิบัติในการถวายดอกไม้จันทน์ และการอำนวยความสะดวกประชาชน โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย น.ส.สุทธิภา นาเจริญ ผอ.กองกลาง สำนักงานปลัดกรุงเทพมหานคร นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงต่างประเทศ
น.ส.สุทธิภากล่าวว่า กทม. จัดพื้นที่รองรับประชาชนในการเข้าถวายดอกไม้จันทน์ ใน กทม.เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ พระเมรุมาศจำลอง 9 แห่ง 1.พระลานพระราชวังดุสิต 1 แห่ง 2.สี่มุมเมืองสนามหลวง 4 แห่ง ประกอบด้วย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเดิม สวนนาคราภิรมย์ ลานปฐมบรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ 1 ลานคนเมือง 3.สี่มุมเมืองกรุงเทพมหานคร 4 แห่ง ประกอบด้วย สนามกีฬากองทัพอากาศ (ธูปะเตมีย์) พุทธมณฑล ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค สถาบันเทคโนโลยีพระจอม เกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นอกจากนั้น ยังมีซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ขนาดใหญ่ 16 ซุ้ม ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ขนาดกลาง 26 ซุ้ม ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ตามวัดต่างๆ 62 ซุ้ม
น.ส.สุทธิภากล่าวว่า พร้อมจัดจุดพักคอยให้ประชาชนก่อนเข้าไปถวายดอกไม้จันทน์ที่พระจิตกาธาน (ที่ถวายดอกไม้จันทน์) บริเวณพระเมรุมาศจำลองไว้แล้ว เช่น ที่พระเมรุมาศจำลองบริเวณลานคนเมือง กทม. ได้จัดพื้นที่พักคอยไว้ที่วัดสุทัศน์ โรงเรียนเบญจมราชาลัย โรงเรียนภารตะ เป็นต้น โดยจุดดังกล่าวจะจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มในเบื้องต้นไว้ให้ แต่จะไม่บริการอาหารบริเวณในจุดถวายดอกไม้จันทน์ และเมื่อถึงเวลาที่กำหนด เจ้าหน้าที่จะเชิญให้ประชาชนเข้าไปยังพระเมรุมาศจำลองเพื่อถวายดอกไม้จันทน์ด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ตามกำหนดเวลาที่วางไว้เป็นช่วงๆ
น.ส.สุทธิภากล่าวว่า โดยจะเริ่มต้นให้ประชาชนถวายดอกไม้จันทน์ตามจุดต่างๆ ในวันที่ 26 ต.ค. เวลา 09.00 น. ถึงประมาณเวลา 16.30 น.จะหยุดพักในช่วงที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯที่พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวงพื้นที่ประกอบพระราชพิธี หลังจากนั้นจะเปิดให้ถวายดอกไม้จันทน์ได้อีกครั้งเวลา 18.00 น. และเวลา 22.00 น. เป็นช่วงถวายพระเพลิงพระบรมศพจริง จะมีการหยุดช่วงระยะเวลาหนึ่ง แล้วจะเชิญดอกไม้จันทน์ของประชาชนทุกท่านที่ร่วมถวายตลอดทั้งวันไปเผาที่พระ จิตกาธาน ที่จัดสร้างขึ้นที่พระเมรุมาศท้องสนามหลวง และพระเมรุมาศจำลองทั้ง 8 แห่ง (ยกเว้นหน้าพระลานพระราชวังดุสิต) รวมถึงเขตต่างๆ และวัดที่มีการสร้างพระจิตกาธานที่ได้เตรียมไว้ จากการประเมินแต่ละจุดสามารถเผาได้ประมาณ 3 แสนดอก
น.ส.สุทธิภากล่าวว่า ผู้ถวายดอกไม้จันทน์ควรแต่งกายด้วยความเรียบร้อย ใส่รองเท้า คัตชูหุ้มส้น ไม่ควรใส่รองเท้าแตะ และ กทม.ห่วงใยสุขภาพของประชาชน ซึ่งในวัน ดังกล่าวอาจมีฝนตก จึงขอให้ประชาชนเตรียมร่มหรือเสื้อกันฝนมาด้วย และถ้าเป็นไปได้ควรเตรียมน้ำหรืออาหารติดตัวมาด้วยก็จะสะดวกในเบื้องต้น สำหรับสุขานั้นได้จัดเตรียมไว้ทั้งสุขาเคลื่อนที่ และในส่วนต่างๆ ในทุกส่วนที่ได้ประสานไว้ ส่วนหน่วยแพทย์ได้เตรียมพื้นที่ใกล้กับพระเมรุมาศจำลอง ซุ้มขนาดใหญ่และซุ้มขนาดกลาง รวมถึงวัดต่างๆ ทั่วพื้นที่ใกล้ซุ้มที่จัดไว้ ในกรณีฉุกเฉินก็จะมีรถเข้าไปรับผู้ป่วยออกมาตามเส้นทางที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเตรียมไว้
ด้านนายนิสิตกล่าวว่า ในส่วนของต่างจังหวัดนั้นการจัดสร้างพระเมรุมาศจำลองและซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ 76 จังหวัด โดยเสร็จแล้ว 100 % จำนวน 56 แห่ง เหลืออีก 20 แห่ง มีความคืบหน้าประมาณ 95 % โดยทางกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้ต้องแล้วเสร็จทั้งหมด 100 % ภายในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ส่วนซุ้มดอกไม้จันทน์นั้นมีทั้งหมด 802 แห่ง แบ่งเป็นขนาดกลาง 649 แห่ง และขนาดเล็ก 153 แห่ง ซึ่งการก่อสร้างเสร็จสิ้นไปแล้วกว่า 95 % คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ต.ค. สำหรับพระจิตกาธาน หรือเตาเผาดอกไม้จันทน์จะก่อสร้างทั้งหมด 878 แห่ง โดยสร้างอยู่ใกล้กับพระเมรุมาศจำลองจะต้องแล้วเสร็จทั้งหมดภายในวันที่ 20 ต.ค.นี้
นายนิสิตกล่าวว่า สำหรับดอกไม้จันทน์พระราชทาน ขณะนี้มีทั้งสิ้น 61 ล้านดอก เชื่อมั่นว่าเพียงพอสำหรับประชาชนทุกคนที่มาร่วมถวายดอกไม้จันทน์ โดยขณะนี้ได้จัดเก็บไว้ในพื้นที่ที่มีความเหมาะสม ส่วนมาตรการดูแลประชาชนนั้นกระทรวงมหาดไทยสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทั่วประเทศ ให้จัดทำแผนเผชิญเหตุรองรับกรณีฉุกเฉินโดยเฉพาะเหตุฝนตก อย่างไรก็ตามยืนยันว่าสถานที่ถวายดอกไม้จันทน์และพระเมรุมาศจำลองนั้นมีครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมทั้งจะติดตั้งจอแอลอีดีไว้เพื่อให้มีบรรยากาศเหมือนกับส่วนกลางมากที่สุด ทั้งนี้ขอให้ประชาชนที่มาร่วมงานพระราชพิธี แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย เพื่อให้สมพระเกียรติที่สุด
ด้านน.ส.บุษฎีกล่าวว่า ในส่วนของดอกไม้จันทน์ได้ให้สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ทุกแห่งได้จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ล่วงหน้าเพื่อเป็นช่อดอกไม้จันทน์พิเศษ ในนามของผู้แทนส่วนราชการ หรือที่เรียกว่าทีมประเทศไทยในประเทศนั้นๆ รวมถึงเป็นตัวแทนชุมชนคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศได้อธิษฐานช่อดอกไม้จันทน์ และขณะนี้สถานทูตกงสุลใหญ่ทุกแห่งได้จัดส่งช่อดอกไม้จันทน์ กลับมาที่กระทรวงการต่างประเทศ จำนวน 96 ช่อ จาก 94 แห่งจากสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ คณะผู้แทนไทยประจำสหประชาชาติ เจนีวา นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา คณะผู้แทนไทยประจำอาเซียนที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงช่อดอกไม้จันทน์จากตัวแทนจิตอาสาเฉพาะกิจในต่างประเทศ จำนวน 94 ช่อ และวันเดียวกันนี้ตัวแทนกระทรวงต่างประเทศ จะนำช่อดอกไม้พิเศษนี้มอบให้สำนักพระราชวังในวันนี้ และจะเชิญไปถวายที่พระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในวันที่ 26 ต.ค.นี้
น.ส.บุษฎีกล่าวว่า นอกจากนี้ในทุกประเทศได้มีกำหนดสถานที่ในการจัดพิธีจริง เช่น กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ที่วัดพระเชตุวัน วัดไทยกรุงวอชิงตันดี.ซี. โดยพิธีถวายดอกไม้จันทน์ในต่างประเทศ จะจัดในเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกับประเทศไทย แต่จะ ไม่จัดก่อนกำหนดพระราชพิธีในวันที่ 26 ต.ค.ตามในประเทศไทย นอกจากนี้ ในทุกประเทศจะมีการติดตั้งจอแอลอีดีเพื่อถ่ายทอดสด เพื่อจะได้เห็นการดำเนินพระราชพิธีในกรุงเทพมหานคร
วันเดียวกัน สำนักพระราชวังนอร์เวย์ แถลงว่า เจ้าชายฮากอน มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ พระราชโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 และสมเด็จพระราชินีซอนยา แห่งนอร์เวย์ จะเสด็จพระราชดำเนินมากรุงเทพ มหานคร เพื่อทรงร่วมพระราชพิธีถวาย พระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง ในวันที่ 26 ต.ค. นี้