การค้ายาเสพติดเป็นการลงทุนน้อยแต่ผลตอบแทนมหาศาล
หากสามารถควบคุมความเสี่ยงเอาไว้ได้ วริศรารู้ดี เมื่อย้ายออกจากคลองเตยจึงเปลี่ยนจากค้ายาบ้าหันมาค้ายาไอซ์ให้กลุ่มคนมีตังค์ ประสบการณ์บนเส้นทางผิดกฎหมาย 10 ปี เพียงพอให้เธอมีเครือข่ายของตัวเอง จึงรับยาไอซ์จากชาวเขมรบริเวณชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว มาจำหน่าย
เดือนพฤษภาคม2550 วริศราแยกทางกับสามี
แล้วย้ายมาอยู่ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในซอยพหลโยธิน 57 แขวงอนุสาวรีย์ชัย เขตบางเขน กทม.ที่นี่เองวริศราได้กลับไปติดต่อพ่อค้ายาเสพติดในชุมชนแออัดคลองเตยอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน ในแต่ละเดือนบัญชีเงินฝากของวริศรามีความเคลื่อนไหวในแง่บวกอยู่อย่างต่อเนื่อง มีเงินหมุนเข้าหมุนออกครั้งละมากๆ ผิดไปจากแม่ค้าหมูทั่วไปพึงจะมีและเป็นได้
การกลับมาข้องแวะกับยาบ้าอีกครั้งของวริศรานี่เองที่ต่อมามันได้กลายเป็นจุดจบของเธอ
โดยต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สายข่าวของ ด.ต.ศุภกิจ จรรยางามสกุล ผบ.หมู่งานสืบสวน ศสส.บช.น.ระแคะระคายเกี่ยวกับธุรกิจค้ายาบ้าของวริศราจึงรายงานให้ ด.ต.ศุภกิจ ทราบว่ามีเอเย่นต์ค้ายาบ้ารายใหญ่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่โชคชัยและบางเขน รายงานนี้ถูกส่งต่อไปยัง พ.ต.อ.ปรีชาธิมามนตรี รองผบก.ศสส.บช.น. พ.ต.อ.ปรีชาสั่งการให้ พ.ต.อ.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช ผกก.ศสส.บช.น. และ พ.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผกก.ศสส.บช.น.จัดชุดสืบสวนติดตามสะกดรอยเป้าหมาย ซึ่งกินเวลาเกือบ 1 เดือน กว่าที่ ร.ต.อ.สมบูรณ์เศรษฐ์ ชูช่วย และ ร.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน พร้อมชุดสืบสวนจะประสบความสำเร็จเอาเมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา
"ผมติดต่อขอซื้อยาไอซ์จากเป้าหมายได้ 30 กรัม ราคา 2,000 บาทครับ"
สายลับแจ้งผลการปฏิบัติงานให้ชุดสืบสวนได้รับทราบและรับฟังแผนการจับกุมจากชุดสืบสวนอีกคำรบหนึ่ง ลานจอดรถศูนย์สรรพสินค้าแห่งหนึ่งเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.เวลาบ่าย 2 โมงตรง วันที่ 1 กันยายน คือ วัน เวลา และจุดนัดพบ
เมื่อถึงเวลานัดหมายกำลังชุดสืบสวนกระจายอยู่โดยรอบ
สังเกตเห็นรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีเทา ทะเบียน สณ 342 กรุงเทพมหานคร ทุกคนจำได้แม่นยำเพราะได้เฝ้าติดตามดูพฤติการณ์เสียจนชินตา ชุดสืบสวนให้สัญญาณสายลับรู้ตัวล่วงหน้า ก่อนจะกรูเข้าจับกุมเป้าหมายไว้ได้ เธอไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นวริศราอดีตแม่ค้าขายหมูผู้เลือกทางเดินผิดนั่นเอง บัดนี้เมื่อตกอยู่ในความควบคุมของตำรวจศสส.บช.น.วริศราถึงกับหน้าถอดสีและยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
หญิงสาวบอกว่ารับยาบ้ามาจาก"โอ"
เอเย่นต์ยาบ้าที่เธอเองก็ไม่รู้ชื่อและนามสกุลจริง โดยนัดหมายให้ไปรับยาบ้าที่ตลาดไท จ.ปทุมธานี ในราคามัดละ 1.6 แสนบาท แล้วนำไปจำหน่ายให้ลูกค้าในเขต กทม.ในราคามัดละ 2 แสนบาท จากนั้นลูกค้าจะนำไปขายต่อในราคาเม็ดละ 300 บาท
ใช่แล้ว ! ปัจจุบันนี้ราคายาบ้าแพงเสียยิ่งกว่าค่าแรงขั้นต่ำเสียอีก
ส่วนยาไอซ์นั้นวริศราเดินทางไปซื้อมาจากประเทศกัมพูชาราคากรัมละ2,000 บาท แล้วนำมาขายให้ลูกค้าราคากรัมละ 3,000 บาท บวกกำไรเพิ่มเข้าไปอีก 1,000 บาทต่อกรัม ตกกิโลกรัมละ 1 หมื่นบาท ด้วยเหตุนี้เธอจึงมีชีวิตที่หรูหราฟู่ฟ่ามากกว่าวริศราแม่ค้าหมูมากมายหลายเท่านัก
ทั้งนี้จากการตรวจค้นห้องพักเลขที่ 2402 ชั้น 4 คอนโดมิเนียมในซอยพหลโยธิน 57 ของวริศรา
พบยาบ้า 1.6 แสนเม็ด และยาไอซ์ 145 กรัม ซึ่งมันจะทำเงินให้เธออีกมากโข แต่ถ้าปริมาณยาเสพติดทั้งสองชนิดนี้ถูกกระจายออกไปในตลาดแล้วมันจะมีมูลค่ามากถึง 50.5 ล้านบาทเลยทีเดียว
"ผู้ต้องหากับผู้ส่งของจะไม่เคยพบหน้าค่าตากัน
จะใช้วิธีติดต่อนัดหมายส่งของกันทางโทรศัพท์ ของกลางที่ยึดได้ครั้งนี้มีมูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท แต่ถ้านำยาบ้าไปจำหน่ายเม็ดละ 300 บาท จะมีมูลค่าเกือบ 50 ล้านบาท ส่วนยาไอซ์ก็จะอยู่ที่ 5 แสนกว่าบาท" พ.ต.อ.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช ผกก.ศสส.บช.น.ระบุ
คดีนี้พิสูจน์ให้เห็นสัจธรรมที่ว่า"ทางไปสรรค์รก ทางไปนรกเตียน" ได้อย่างเห็นภาพเสียนี่กระไร