อภิรักษ์ดึงสมาคมวิศวโยธาฯ ตรวจโครงสร้างรร.แมนดาริน

เตรียมประสานสมาคมวิศวโยธาฯ เข้าตรวจสอบโครงสร้างอาอาคารว่าปลอดภัยหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีเพลิงไหม้โรงแรมแมนดาริน เลขที่ 66/2 ถ.พระราม 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม.โดยชื่อจดทะเบียนเป็นของนางเพียงใจ หาญพาณิชย์ โดยนักท่องเที่ยวที่มาเข้าพักจำนวนหลายร้อยคน ต่างหลบหนีเอาชีวิตรอดกันอย่างอลหม่าน เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 5 กันยายน

ล่าสุดเวลา 09.00 น.วันนี้(5กย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ของโรงแรมมาคอยดูแลนักท่องเที่ยว

เพื่อประสานงานและอำนวยความสะดวก ต่อมาเวลา 09.30 น.ได้มี นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกล่าวว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่ผ่านมา ทำให้มีแขกที่เข้ามาพักได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 16 คน แต่บางรายสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่ยังเหลือที่พักรักษาตัวตามโรงพยาบาลอีก 9 คน ส่วนใหญ่เกิดจากการสำลักควันไฟ อย่างไรก็ตามทาง กทม. สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานเขต ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่โรงแรม รวมถึงสถานฑูต ได้ประสานเข้ามา เพื่อร่วมกันดูแลในเรื่องที่พักอาศัยชั่วคราวให้แกนักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้าของทางโรงแรมแล้ว ส่วนเรื่องการตรวจสอบโครงสร้างของอาคารนั้นจะประสานกับทางสมาคมวิศวโยธาฯ และกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ให้เข้ามาร่วมตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้น รวมถึงสภาพโครงสร้างตึกว่ามีความปลอดภัยหรือไม่

นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผลกระทบในฐานะเป็นเมืองท่องเที่ยวนั้นทางเจ้าหน้าที่จะประสานไปยังสถานทูตต่างๆ

เพื่อให้เข้ามาดูแลแล้ว และจะมีการช่วยเหลืออย่างทั่วถึง ทั้งนี้สาเหตุที่เป็นอุปสรรคที่ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้กว่า 4 ชั่วโมง เพราะพื้นที่ดังกล่าวแออัด และเหตุเกิดในเวลากลางคืน ผู้พักอาศัยอยู่ในเวลานอนหลับพักผ่อนทำให้การช่วยเหลือและอพยพผู้คนทำยาก และทำให้การเข้าไปคุมเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ มีรถดับเพลิงระดมเข้ามากว่า 80 คัน อย่างไรก็ตามในขั้นต่อไปก็จะประสานไปยังสมาคมธุรกิจโรงแรมแห่งประเทศไทย เพื่อขอความร่วมในการตรวจสอบโครงสร้างอาคารว่าแข็งแรงแค่ไหน รวมถึงระบบป้องกันภัยต่างๆ ทั้งสัญญาณเตือน หัวสปริ๊งเกอร์ว่ามีครบตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ หากไม่ครบก็จะดำเนินการต่อไป

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เรียกพนักงานโรงแรม 2 คนมาสอบปากคำแล้ว เบื้องต้นทราบเพียงว่าเห็นเพลิงไหม้จากชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นห้องเก็บของ และอยู่ระหว่างปรับปรุงตกแต่งปรับเป็นคาเฟ่ แต่ไม่มีใครอยู่ภายใน เนื่องจากมีการปิดล็อคห้องตั้งแต่เวลา 21.00 น.ของคืนที่ผ่านมา ทั้งนี้จะให้เจ้าหน้าที่พฐ. เข้าตรวจสอบหาร่องรอยและสาเหตุเพลิงไหม้ ส่วนค่าเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการประสานเจ้าของโรงแรมเพื่อทำการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามบริเวณอาคารพี ซึ่งเป็นอาคารที่เกิดเพลิงไหม้ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวและแขกที่พักเข้าไปภายในเพื่อตรวจสอบสัมภาระได้ อนุญาตเพียงลูกค้าที่พักในส่วนของอาคารเอ็ม ซึ่งอยู่ส่วนหน้าที่ของโรงแรมเท่านั้นที่จะเข้าไปเก็บสัมภาระได้

ด้านศาสนาจารย์ประสาทพงษ์ ปั้นสวย ศิษฐ์อภิบาล (เจ้าอาวาส) คริสต์จักรที่ 2 สามย่าน สังกัดสภาคริสตจักรแห่งประเทศไทย กล่าวว่า

ช่วงเกิดเหตุทางคริสตจักรได้เปิดโบสถ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวอพยพไปพักอาศัยอยู่ชั่วคราว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติทั้ง สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เกาหลีและอื่นๆ กว่า 500 คน เข้าพัก และนักท่องเที่ยวต่างบอกว่า ทางโรงแรมไม่มีสัญญาณเตือนภัย และไม่มีใครโทรแจ้งให้ทราบเลยว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ ส่วนใหญ่จะรู้เมื่อได้เยินเสียงไซเรนรถดับเพลิงจึงตื่นมาดูแล้วรีบพากันวิ่งหนีออกมา

ด้านนักท่องเที่ยวชาวอิหร่านคนหนึ่ง อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งเป็นแขกที่พักอยู่ที่ห้อง 1254 กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงท่าทางตกใจว่า

ตนเองพร้อมภรรยาและเพื่อนรวม 4 คนมาพักที่โรงแรมแมนดาริน โดยขณะที่กำลังจะเข้านอนพบว่ามีเสียงสัญญาณไซเรนดังขึ้น ตนเองจึงออกมาดูพบว่าเกิดเพลิงไหม้ แต่ไม่มีสัญญาณแจ้งจากทางโรงแรมแต่อย่างใด ไม่มีแม้แต่คนมาบอกว่าเกิดเพลิงไหม้ ตนต้องหาทางหลบหนีออกมากันเอง อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุตนได้ไปเปิดห้องพักที่โรงแรมเอเชียไว้แล้ว และรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก

ทางด้าน พ.ต.อ.สุรชัย วัชรโยธิน รอง ผบก.พฐ กล่าวว่าบริเวณจุดเกิดเหตุ หรืออาคารพี เป็นชั้น 2 อยู่ระหว่างห้องเก็บของกับห้องฟิตเนส

จะต้องทำการรักษาพื้นที่ไว้ก่อน สำหรับตอนนี้ยังเข้าไปตรวจสอบหาหลักฐานไม่ได้ เนื่องจากว่าตัวอาคารเป็นตัวอาคารเก่า ยิ่งเมื่อเกิดเพลิงไหม้ ประกอบกับปริมาณน้ำที่ฉีดเข้าไปจำนวนมาก ทำให้ต้องรอการระบายน้ำออกให้หมดก่อน โดยช่วงบ่ายวันนี้ (5 ส.ค.) ตนพร้อมด้วยผู้ช่วยชาญด้านการตรวจพิสูจน์เพลิงไหม้ พร้อมด้วยสำนักโยธาธิการของกรุงเทพมหานครไปตรวจสภาพอาคารว่าจะสามารถเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุได้หรือไม่ เมื่อตรวจดูแล้วไม่มีความเสี่ยงในด้านความปลอดภัยก็จะเข้าทำการตรวจสอบทันที ส่วนชั้นถัดๆ ไปที่เกิดเพลิงไหม้รุกรามก็จะะเข้าทำการตรวจสอบทันที ส่วนชั้นถัดๆ ไปที่เกิดเพลิงไหม้รุกรามก็จะถ่ายภาพเก็บไว้