ผับโอกาสทองเปิดยาวยันตี4

ผับเธคกลับมาแล้ว เปิดยาวยันตี 4 ไม่สนจัดระเบียบ "นพ.แท้จริง" ร้องระวังปัญหาต่างๆ จะกลับมาใหม่ โดยเฉพาะเยาวชน อาญชากรรม ยาเสพติด ด้าน "พ.ต.อ.สุพิศาล"


โอดพยายามกันแล้ว  แต่สถานบันเทิงมากกว่ากำลังคนเป็นสิบเป็นร้อยเท่า

 และยังมีเรื่องสำคัญต้องทำเยอะไปหมด  วอนประชาชนช่วยโฟกัส จะได้ลงได้ถูกร้านและจัดการได้ตรงจุด

สื่อข่าวรายงานว่า  

หลังจากที่มีการกำหนดเขตโซนนิ่ง  และกำหนดเวลาปิดเปิดสถานบันเทิง โดยในเขตโซนนิ่งให้เปิดไม่เกินตี 2 และนอกโซนนิ่งเปิดได้ไม่เกินตี 1 ซึ่งช่วงที่กระแสมาแรงๆ  นั้น สถานบันเทิงเกือบทั้งหมดก็ให้ความร่วมมืออย่างดี  หรือบางแห่งอาจจะต้องจำใจทำ เนื่องจากมีการตรวจตราที่เข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกสิ่งก็กลับมาเหมือนเดิม 

ซึ่งล่าสุดจากการลงพื้นที่สำรวจแล้ว สถานบันเทิง   ผับ เธค ตามย่านราตรีชื่อดัง อาทิ รัชดาภิเษก พระราม 9 หรือถนนสุขุมวิท  ก็กลับมาเปิดเกินเวลาอยู่เหมือนเดิมแล้ว นักท่องราตรีกลับมาเริงร่ากันจนดึกดื่นได้ถึงเวลาตี 3 ครึ่ง ถึงตี 4

แหล่งข่าวแจ้งว่า 

ขณะนี้ผับ  เธค ส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการถึงประมาณตี 3 หรือตี  3 ครึ่ง และมีอยู่หลายร้านเปิดให้บริการถึงเวลาตี 4  โดยเฉพาะร้านที่เป็นร้านเดี่ยวๆ  หรือร้านที่ไม่อยู่ในโซนสำคัญเหมือนอาร์ซีเอ  หรือรัชดาฯ ซอย 4 โดยบางแห่งเป็นผับตามโรงแรมต่างๆ ซึ่งนักท่องราตรีก็จะไปต่อกัน ถ้าที่อื่นปิดเร็วตามเวลา  และก็จะเป็นศูนย์รวมของเหล่าบรรดาคนทำงานกลางคืนที่เลิกงานดึก  นอกจากนี้ร้านเหล้าใกล้มหาวิทยาลัยก็กลับมาเปิดเพิ่มมากขึ้นเหมือนเดิมแล้ว มีเด็กจำนวนมากที่ไปนั่งดื่มเหล้าในชุดนักศึกษา

นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวถึงกระแสนี้ว่า

เท่าที่สังเกตก็รู้สึกว่ามันเริ่มจะกลับมาแล้ว และในช่วงนี้ที่ดูว่ามันหละหลวมมาก ส่วนตัวมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยกวดขันหรือตรวจตรานั้น มีความเข้มงวดน้อยลง ส่วนใหญ่จะไปให้ความสำคัญอยู่กับด้านการเมือง การรักษาความปลอดภัย หรือในช่วงนี้การเมืองกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม  ต้องใช้กำลังไปดูแลทางด้านอื่น การดูแลในส่วนนี้ก็เลยทำได้น้อยลง ไม่ทั่วถึง

"บ้านเราพอมีกระแสที  ก็เฮกันไปที

แต่ก็เห็นใจว่าการจะแก้ปัญหาเรื่องนี้จะโยนความรับผิดชอบไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดก็คงไม่ได้  เพราะเจ้าหน้าที่ก็มีกำลังจำกัด งบประมาณ หรือแม้แต่เครื่องมือ ซึ่งตรงนี้เราต้องไม่ยึดตามกระแส  แต่ต้องทำจริงจัง  โดยเฉพาะรัฐบาลต้องลงทุน   ใช้คำว่าลงทุน  คือทั้งเรื่องบุคลากร  งบประมาณ  และเครื่องมือ

อย่าเห็นว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญ  หรือพอกระแสมาก็จัดการกันไปแต่ละที

ผับเธคเป็นแหล่งรวมวัยรุ่น เมื่อไปเที่ยวสถานเริงรมย์ก็ต้องกินเหล้า มันส่งผลเสียมาอย่างต่อเนื่อง  ไม่ว่าจะเป็นตัวเยาวชนเอง ปัญหาสังคม อาชญากรรม และยาเสพติด ซึ่งถ้าปล่อยไว้แบบนี้ปัญหาเก่าๆ ก็จะวนเวียนกลับมาใหม่  และจะยิ่งมากขึ้น  แต่ถ้ามีการแก้ปัญหาที่จริงจัง วางกฎเกณฑ์ ลงทุนทำจริง ถึงแม้จะแก้ได้แค่บางส่วน  แต่ก็เชื่อว่าเราจะป้องกันไม่ให้ปัญหาต่างๆ มันเพิ่มขึ้นมาได้" นพ.แท้จริงกล่าวทิ้งท้าย

ด้าน  พ.ต.อ.สุพิศาล  ภักดีนฤนาถ  โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า

ทุกวันนี้เราก็พยายามกันอย่างเต็มที่   แต่อยากให้เข้าใจเจ้าหน้าที่ด้วย  เนื่องจากกำลังคนต่อ 1 เขตนั้น แต่ละกะจะวิ่งตรวจแค่  2 คน เข้าตรวจแค่ 3-4 ร้านก็หมดเวลาแล้ว คนน้อย  แต่มีร้านเหล้าเป็นสิบเป็นร้อย  ยังไงก็ดูแลไม่ไหว บางคนอาจมองว่ามีตำรวจเยอะ แต่ความจริงมันมีหน้าที่ของแต่ละคนที่ต้องรับผิดชอบ ทุกวันนี้จำนวนตำรวจก็ไม่พออยู่แล้ว

"เข้าใจว่าการจำกัดเวลาได้มากเท่าไหร่ 

ก็จะแก้ไขได้มากเท่านั้น  ปัญหานี้ยอมรับว่าคงเกิดขึ้นจากความเข้มงวด   ซึ่งในจุดนี้ก็อยากให้ร้องเรียนกันเข้ามา  โทร.มาที่ 191 ก็ได้  ว่าร้านนี้เปิดเกินเวลา เป็นแหล่งมั่วสุม  ซึ่งเมื่อแจ้งเข้ามาแล้วก็จะมีการโฟกัสไปที่นั้นๆ  และทางเราก็จะตรวจสอบไปทางเจ้าของพื้นที่ว่าทำไมถึงปล่อยให้เป็นอย่างนี้ ก็จะมีการดำเนินการต่อไป  แต่ถ้าจะให้เข้าไปตรวจดูให้หมด คงเป็นไปไม่ได้" โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาลกล่าว


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์