บุชอ่วมเหยียบแดนจิงโจ้เจอประท้วงขับไล่

ในขณะที่ผลสำรวจพบว่าชาวออสซีส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า บุชคือผู้นำสหรัฐที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ประชุมถกปัญหาโลกร้อนด้วย หลังจากเดินทางเยือนอิรักอย่างไม่บอกกล่าวล่วงหน้าแล้ว ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ของสหรัฐ ก็เดินทางต่อมุ่งหน้าสู่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียเมื่อวันอังคาร เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค และเผชิญหน้ากับการประท้วงต่อต้านสงครามที่รอคอยเขาอยู่ในออสเตรเลีย ในขณะเดียวกัน ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนแดนจิงโจ้พบว่าชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่เชื่อว่า เขาเป็นผู้นำสหรัฐที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์
 
การเดินทางเยือนอิรักของบุชก่อนที่จะไปออสเตรเลีย มีขึ้นในขณะที่กำลังจะมีการชี้แจงในรัฐสภาเกี่ยวกับสงครามในอิรัก

ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนมากกว่า 4 ปีหลังจากกองทัพนานาชาติ ซึ่งนำโดยสหรัฐบุกยึดอิรัก ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักหน่วงให้เขาถอนกำลังทหารสหรัฐออกจากดินแดนขัดแย้งนี้ ผู้นำแดนอินทรี กล่าวว่ามีความคืบหน้า และว่าการลดจำนวนทหารมีความเป็นไปได้ ตำรวจออสเตรเลียต้องรับมือกับแผนการประท้วงของประชาชน 20,000 คน ซึ่งจัดโดยพันธมิตรต่อต้านบุช โดยการประท้วงมีกำหนดขึ้นในวันเสาร์นี้ ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุม 21 ผู้นำเอเปค แต่มีผู้ประท้วงกลุ่มเล็ก ๆ รอประท้วงบุช อยู่แล้วเมื่อเขาเดินทางถึง
 
บุชจะงดการประชุมในวันที่ 2 เพื่อเดินทางกลับกรุงวอชิงตันให้ทันเวลาที่พลเอกเดวิด เปตราอุส ผู้บัญชาการทหารสหรัฐในอิรัก จะรายงานความคืบหน้าการทำสงครามในอิรักต่อรัฐสภา

ส่วนผลการสำรวจความคิดเห็นชาวออส เตรเลีย ซึ่งจัดทำโดยสมาคมการแพทย์เพื่อการป้องกันสงคราม หรือเอ็มเอพีดับเบิลยู พบว่า ร้อยละ 52 ของชาวออสเตรเลีย จัดอันดับให้บุชเป็นผู้นำสหรัฐที่แย่ที่สุด และมีเพียงร้อยละ 32 เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย ส่วนที่เหลือยังไม่ได้ตัดสินใจ
 
ด้านนายคริสโตเฟอร์ ฮิลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ หัวหน้าผู้แทนเจรจาแก้ปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือ กล่าวที่ซิดนีย์เมื่อวันอังคารว่า

เกาหลีเหนือต้องดำเนินการมากกว่าที่เป็นอยู่เพื่อล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ก่อนที่สหรัฐจะถอดชื่อออกจากกลุ่มประเทศที่ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย นายฮิลล์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อเขาเดินทางถึงซิดนีย์ว่า การถอดชื่อเกาหลีเหนือออกจากบัญชีดำกลุ่มประเทศที่ให้การสนับสนุนกลุ่มการร้ายนั้น จะขึ้นอยู่ที่การปลดอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มเติม
 
กลุ่มประเทศแถบมหาสมุทรแปซิฟิก เริ่มเจรจาการประกาศเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกแล้วเมื่อวันอังคาร

ซึ่งออสเตรเลีย เจ้าภาพจัดประชุมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ พร้อมเตือนว่า เศรษฐกิจโลกในอนาคตจะขึ้นอยู่กับการหยุดยั้งภาวะโลกร้อน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญพยายามเชื่อมความคิดเห็นที่แตกต่างระหว่างประเทศร่ำรวยและประเทศกำลังพัฒนา เกี่ยวกับเป้าหมายในการจัดการกับปัญหาโลกร้อน.