จากกรณีที่นายวิชิต รัฐรินทร์ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกตัดมิเตอร์ไฟที่บ้านทั้งที่ชำระเงินแล้วและมีใบเสร็จยืนยัน ซึ่งก่อนจะถูกตัดได้บอกกับพนักงานว่า มีแม่อายุ 89 ปี นอนป่วยติดเตียงอยู่ภายในบ้านจึงจำเป็นต้องใช้ไฟ แต่พนักงานคนดังกล่าวไม่ฟังเหตุผล จนแม่วัย 89 ปีน็อคเข้าโรงบาลเพราะต้องใช้ไฟฟ้า ซึ่งนายวิชิตชำระค่าไฟเวลา 08.45 น. แต่พนักงานตัดมิเตอร์เวลา 13.30 น. หลังจากนำใบเสร็จไปยืนยันที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงยอมนำมิเตอร์มาติดให้คืนในช่วงเย็นของวันเดียวกัน เป็นเรื่องที่คิดและตัดสินใจเองได้ไม่เห็นจำเป็นต้องทำเช่นนี้จนคนป่วยเกือบตาย
แม่น็อคเกือบตาย!! พนักงานตัดไฟ ไม่สนแม่นอนป่วยติดเตียง ทั้งๆที่จ่ายค่าไฟแล้ว!!
เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว วันที่ 9 กันยายน 2560 นายสว่าง มงคลเกษตร ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายสุรยุทธ ศรีสุวพันธ์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขา อ.สตึก และตัวแทนบริษัทผู้รับจ้าง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมเดินทางไปชี้แจงทำความเข้าใจกับนายวิชิต โดยพบว่า ผู้ใช้ไฟบ้านหลังดังกล่าวถือว่าเป็นผู้ใช้ไฟชั้นดี ไม่เคยมีประวัติการชำระเงินล่าช้า ส่วนที่เกิดปัญหายอมรับว่าเกิดจากความบกพร่องในการทำงานของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าและตัวแทนบริษัทผู้รับจ้างในการติดต่อประสานงานว่าผู้ใช้ไฟชำระเงินแล้วทำไมยังตัดมิเตอร์
นายสว่าง กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะกรณีที่มีผู้ป่วยติดเตียงนอนในบ้าน ซึ่งทางการไฟฟ้า ก็พร้อมจะนำความบกพร่องผิดพลาดที่เกิดขึ้นไปแก้ไขปรับปรุงการทำงาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวซ้ำรอยอีก โดยในระเบียบการไฟฟ้ามีข้อยกเว้นในการผ่อนผันให้กับผู้ใช้ไฟที่ยังไม่พร้อมจะชำระเงิน โดยเฉพาะในกรณีที่มีผู้ป่วยติดเตียงนอนอยู่ในบ้าน ผู้ใช้ไฟแจ้งกับทางการไฟฟ้าเพื่อจะได้ลงบันทึกไว้ในระบบ หากมีความจำเป็นต้องจ่ายค่าไฟล่าช้า ก็จะใช้วิธีการทวงถามจะไม่มีการตัดไฟ โดยระเบียบที่ตัวแทนหรือผู้รับจ้างจะมาตัดมิเตอร์กรณีเกินกำหนดชำระเงิน สามารถผ่อนผันได้ 2 ครั้ง คือถัดจากวันที่ทางตัวแทนจะมาตัดมิเตอร์ครั้งละ 1 วันซึ่งสามารถแจ้งกับทางตัวแทนได้ แต่การผ่อนผันครั้งที่สองจะต้องเสียค่าติดตั้งคืน 107 บาท
ที่มา : Workpoint