เมื่อ 2 ก.ย. เว็บไซต์เดลีเมล์ของอังกฤษ รายงานเรื่องราวน่าสะเทือนใจของหญิงเอธิโอเปีย อายุ 26 ปี ถูกสามีทำร้ายด้วยการสาดน้ำกรดใส่ใบหน้าอย่างจัง ฤทธิ์กรดทำลายจนดวงตาข้างซ้ายบอด และทำให้เนื้อบริเวณปากหลอมละลายจนพูดไม่ได้และกินไม่ได้ หญิงสาวต้องเดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลเวชธานี ในกรุงเทพฯ
นางอัตเซเด นิกุสเซียม อายุ 26 ปี ประสบเหตุร้ายที่บ้านพักในเมืองไทไกร ประเทศเอธิโอเปีย เมื่อช่วง 5 ทุ่ม วันที่ 15 ก.ค.2560 จังหวะที่มาเปิดประตูบ้านก็ถูกนายไฮมานอต คาห์ไซ อายุ 29 ปี สามีที่มีปัญหากัน สาดน้ำกรดใส่หน้าในทันที โดยไม่มีคำขู่หรือคำเตือนใดๆ มาก่อน
จังหวะต่อมา สามีของเหยื่อก็วิ่งหนีไป ทิ้งให้เหยื่อสาวปวดแสบปวดร้อนทรมานฤทธิ์กรดที่กัดทำลายใบหน้าวิ่งส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ขณะลูกชาย อายุ 5 ขวบ นอนหลับอยู่ในห้อง
นับจากนั้นมาคุณแม่รายนี้ต้องอาศัยดื่มน้ำและกินอาหารทางหลอด แต่ละวันผ่านไปด้วยการร้องไห้เสียใจและเจ็บปวด กระทั่งต่อมานางอัตเซเดและน้องสาวก็เดินทางมารับการรักษาที่โรงพยาบาลเวชธานี ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เวชธานีพยายามรักษาการมองเห็นเพียงน้อยนิดของดวงตาข้างขวาหญิงสาวไว้ พร้อมกับค่อยๆ รักษาผิวหนัง
หญิงสาวสื่อสารด้วยการเขียนหนังสือและที่เธอเปิดเผยกับเดลีเมล์ก็คือ "ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมสามีถึงทำอย่างนี้ ฉันอยู่บ้านพ่อแม่ในคืนนั้น พอฉันเปิดประตู เหตุการณ์ก็เกิดขึ้น ฉันปวดใจและเจ็บปวดมาก"