หลังจากมีบริการถไฟฟรีมายาวนานถึง 9 ปี สายด่วน 1690 ให้ข้อมูลกับ NoozUP ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยจะยุติการให้บริการโครงการรถไฟฟรีตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป โดยการรถไฟฯ จะติดตั้งเครื่องชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EDC เพื่อให้ผู้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย นำบัตรประจำตัวมาใช้สิทธิ์ขึ้นรถไฟชั้น 3 ฟรี ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการรถไฟฟรีลดลง แต่จะตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้มีรายได้น้อยมากขึ้น
เราขอย้ำอีกครั้งสำหรับผู้ใช้เป็นประจำว่า วันที่ 30 กันยายน 2560 จะเป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะได้นั่งรถไฟฟรี ส่วนจะมีการต่อโครงการออกไป หรือจะกลับมาเริ่มโครงการอีกครั้งหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องติดตามต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีนโยบาย
มาฟังความเห็นจากผู้ที่เคยใช้บริการรถไฟฟรีกันบ้างว่ารู้สึกอย่างไร?
นางสาวพิชญากาญจน์ สุภาพ เคยใช้บริการรถไฟฟรีทั้งไปเที่ยวหัวหินและเดินทางกลับบ้าน รวมถึงทำธุระทางภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง เธอบอกกับ NoozUP ว่าชอบบรรยากาศ ชอบเสียงรถไฟ และชอบที่ได้พบเจออะไรใหม่ๆ การนั่งรถไฟในแต่ละครั้งได้ประสบการณ์ไม่เหมือนกัน ทั้งวิว ทุ่งหญ้า ไร่ นา ฝูงสัตว์ แตกต่างจากการเดินทางโดยรถยนต์
นอกจากวิวทิวทัศน์แล้ว ยังได้พบผู้คนที่หลากหลายที่มีพฤติกรรมที่เราชอบและไม่ชอบ บางคนทิ้งขยะที่เบาะ ไม่มีน้ำใจ แต่บางคนก็ชวนกินอะไรไปตลอดทาง แถมรอยยิ้มให้ ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกัน เธอบอกว่า "บทสนทนาบนชบวนรถไฟฟรี ไม่มีคำว่ารบกวนผู้อื่น" เหมือนกับเวลาขึ้นรถสาธารณะ เป็นเสน่ห์ของการนั่งรถไฟที่เธอชื่นชอบมากๆ ดังนั้น การยกเลิกโครงการรถไฟฟรีจึงไม่มีผลอะไร และเธอจะยังคงใช้บริการรถไฟไทยต่อไป
เธอทิ้งท้ายด้วยรูปนี้ ซึ่งเป็นภาพที่เธอบอกกับเราว่าเป็นภาพที่ไม่เคยเห็นและไม่เคยเจอมาก่อนเลย เป็นครอบครัวหนึ่งที่หอบหิ้วกันมา โดยมีสัมภาระที่ไม่เหมือนใคร
นายปฏิภาณ ศิริรักษ์ เล่าให้ NoozUP ฟังว่า ที่เลือกใช้รถไฟฟรีเพราะสะดวกและประหยัด เมื่อก่อนเคยต้องเดินทางไปกลับ กรุงเทพฯ - อยุธยา บ่อยๆ ก็จะเห็นคนทำงาน แม่ค้า พ่อค้า ขับรถมาจอดที่ลานจอดรถสถานีรถไฟในอยุธยา เพื่อนั่งเข้ามาทำงาน มาซื้อของในกรุงเทพฯ และ "ถึงแม้จะยกเลิกโครงการรถไฟฟรีไปจริงๆ ประชาชนที่เคยใช้บริการเป็นประจำก็ยังคงใช้บริการรถไฟอยู่ เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาเหล่านั้นก็ใช้บริการรถไฟอยู่แล้ว" และส่วนตัวเองถ้าต้องเดินทางไปแบบไม่รีบร้อนนักก็คงจะเลือกใช้รถไฟ ถึงแม้จะไม่ฟรีแล้วก็ตาม นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการเดินทางด้วยรถไฟมีราคาถูกมาก อย่างบางครอบครัวไปเที่ยวพร้อมกันหลายๆ คนก็ประหยัดไปได้มาก
นางสาวอัจฉราพรรณ พานิชเจริญ เธอใช้บริการรถไฟครั้งแรกในชีวิต ด้วยการนั่งรถไฟฟรีไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าที่นั่งเต็ม เธอต้องยืนจากกรุงเทพฯ ไปถึงลำปาง เดินทางทั้งหมด 16 ชั่วโมง แต่เธอก็ยังชื่นชอบการขึ้นรถไฟเพราะทำให้ได้เจอผู้คนมากมาย และยังใช้บริการรถไฟฟรีกลับบ้านที่จังหวัดลพบุรีทุกเดือน เธอบอกว่าเวลานั่งรถไฟกลับบ้านนั้นฟรีบ้าง ไม่ฟรีบ้างตามแต่โอกาส แต่ถ้าเสียเงินก็จะประมาณ 50 บาทเท่านั้น
เธอเล่าว่าการขึ้นรถไฟทำให้รู้สึกปลอดภัยกว่านั่งรถตู้สาธารณะ เพราะรถตู้ขับเร็ว และเมื่อมาเทียบเวลาแล้วนั่งรถตู้ 2 ชั่วโมง รถไฟประมาน 2.30 - 3 ชั่วโมง ก็ถือว่ารับได้ แลกกับความปลอดภัย และความสบายใจ เธอบอกกับ NoozUP ว่า "ถึงจะยกเลิกบริการรถไฟฟรีก็จะยังใช้บริการ เพราะถือว่าเขาช่วยมาเยอะแล้ว ถ้าเสียเงินแล้วนำไปพัฒนารถไฟให้ทันสมัย และตรงต่อเวลาก็จะดีมากๆ ซึ่งสำหรับคนที่พอมีกำลังจ่ายคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้าเป็นคนรายได้ต่ำน่าจะได้รับความเดือดร้อนมากพอสมควร เคยคุยกับคนที่ขึ้นรถไฟฟรี เขาก็บอกว่าเลือกขึ้นเพราะไม่เสียเงิน และยังไงก็ถึง ช้าหน่อยแต่ก็ถึงที่หมาย"