พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง นางสาวณปภา หรือ แพท ตันตระกูล ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน โดยอัยการได้ตรวจพยานหลักฐานในสำนวนแล้ว ทางคดีไม่มีหลักฐานว่า ผู้ต้องหาได้ร่วมกันฟอกเงิน หรือสมคบกันฟอกเงินกับผู้ต้องหาอื่นๆ คดีไม่ปรากฏหลักฐานว่า ผู้ต้องหาไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติด
โดยได้ความเพียงว่า นางสาวณปภา เป็นภรรยาของ นายอัครกิตติ์ หรือ เบนซ์ วรโรจเจริญเดช เท่านั้น และหลักฐานทางคดีมีเพียงการโอนเงินที่ นายอัครกิตติ์ โอนให้กับ นางสาวณปภา จำนวน 18 ครั้ง และเป็นการโอนเงินผ่านระบบบัญชีธนาคารในยอดเงินหลักมื่นและหลักแสนเท่านั้น ถือเป็นพฤติการณ์อุปการะเลี้ยงดูกันปกติระหว่างสามีภรรยา ประกอบกับเงินที่ถูกโอนเข้ามาก็ยังไม่มีการเบิกถอนออกในลักษณะหมุนเวียน จึงฟังไม่ได้ว่า นางสาวณปภา ได้กระทำความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน จึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง โดยมีคำร้องขอให้ศาลอาญา มีหมายปล่อยตัวแล้วในวันนี้
ด้านผู้จัดการส่วนตัวของดาราสาวแพทณปภา เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาแพทได้เดินทางไปทำงานตามปกติโดยยังไม่ทราบว่าทางอัยการสูงสุดมีคำสั่งดังกล่าว และตั้งใจว่าในวันที่ 7 สิงหาคมที่จะถึงนี้จะเดินทางไปรายงานตัวที่ศาลตามปกติ แต่เมื่อทราบข่าวทำให้ แพท ดีใจ และงงกับข่าวที่เกิดขึ้น และอยู่ระหว่างการปรึกษากับทนายความส่วนตัวว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป และจะฟ้องร้องกับทางกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือไม่
พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยภายหลังทราบว่า ทางอัยการไม่สั่งฟ้องแพท ณปภาในคดียาเสพติดว่า เรื่องดังกล่าวเป็นดุลพินิจของอัยการไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์หรือกล่าวถึงในเรื่องดังกล่าว แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานอย่างเต็มที่ หากไม่สั่งฟ้องก็เป็นดุลพินิจของทางอัยการที่จะสามารถกระทำได้ ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่าการที่แพท ณปภาไม่ถูกสั่งฟ้องจะมีผลไปถึงคดีของเบนซ์เรซซิ่งนั้น มองว่าเป็นคนละเรื่องกันเนื่องจากพยานหลักฐานในคดีและลักษณะพฤติการณ์มีความแตกต่างกัน เชื่อว่าการพิจารณาในชั้นศาลจะไม่มีผลต่อคดีเบนซ์เรซซิ่ง
ส่วน นายณัฐพล หรือบอยนาคคำ ผู้ต้องหาในคดีที่ยื่นร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา อัยการเห็นว่ามีพยานหลักฐานพอฟ้องให้ข้อหาร่วมกันสมคบกันฟอกเงิน เเละกระทำสองคนขึ้นไปร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ปราบปรามการฟอกเงิน2542มาตรา 3 5 7 9 60ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 91