กรณีหนุ่มทหารยศสิบโท โพสต์เศร้าหลังสูญเสียภรรยาสุดที่รัก เหตุถูกคนเมาขับรถชนจนเสียชีวิต ซึ่งในวันพิธีฌาปนกิจเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา และยังตรงกับวันครบรอบแต่งงาน 1 เดือน เขาจึงทำสิ่งสุดท้ายจูบลาภรรยาก่อนจากลากัน พร้อมเผยความรู้สึกว่า
"เมียยังไงก็คือเมีย...แค่จูบปากทำไมผัวคนนี้จะไม่กล้า สู่สุขคตินะญา"
นับเป็นภาพที่หดหู่และสะเทือนใจชาวเน็ต ทั้งยังส่งกำลังใจให้หนุ่มรายนี้ก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง...
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 31 ก.ค. "เดลินิวส์ออนไลน์" ได้รับการเปิดเผยจาก "สิบโทศิวะพงษ์ ปุสิงห์" อายุ 24 ปี สังกัดมณฑลทหารบกที่ 12 จ.ปราจีนบุรี แฟนหนุ่มของผู้ตาย กล่าวว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ได้นำกระดูกภรรยามาทำพิธีกรรมตามความเชื่อโบราณของชาวบ้าน โดยนำเถ่ากระดูกมาห่อผ้าขาวแล้วฝั่งดินกลบไว้ใต้ต้นไม้ภายในวัด หลังจากนี้อีก 100 วัน ก็จะจัดพิธีอุทิศส่วนบุญกุศลให้ตามปกติ โดยในวันพรุ่งนี้ 1 ส.ค. ตนก็จะต้องกลับไปรับราชการทหาร
ซึ่งได้เปรยกับผู้บังคับบัญชาไว้ก่อนหน้านี่ว่า อาจจะขอย้ายกลับมาสังกัดมณฑลทหารบกที่ 22จ.อุบลราชธานี ตามภูมิลำเนาเกิด เพื่อขอทำหน้าที่ดูแลลูกสาววัย 1 ขวบ 3 เดือน
"ในวันเผาศพเธอ ผมได้จูบลาเธอครั้งสุดท้าย ผมไม่รังเกียจเลยแค่เธอหลับตา ลาก่อนที่รัก ที่ผมทำอยากให้เขาหมดห่วง อยากให้รู้ว่าผมจะอยู่ข้างเธอและลูกเสมอ อยากให้เป็นเมื่อวันที่เธอกับผมเข้าพิธีวิวาห์กัน มันมีแต่ความสุข นึกถึงรอยยิ้มหวานๆ แต่ตอนนี้มันเหลือเพียงความรักที่ไม่มีเขาอยู่ ผมจะคิดถึงแค่ไหนมันก็ไม่มีวันได้เจอ แต่ผมรู้ว่าผมจะต้องสู้เพื่อลูกที่เป็นตัวแทนภรรยา เพราะไม่อยากให้ลูกโตขึ้นแล้วเป็นปมด้อย ผมจะทำหน้าที่พ่อและแม่ให้อย่างดีที่สุด"
สิบโทศิวะพงษ์ กล่าว
ขณะที่ ร.ต.อ.อนุสรณ์ เขื่อนคำ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี กล่าวผ่านผู้สื่อข่าวว่า เบื้องต้นทางคดีทั้งสองฝ่ายได้เจอหน้ากันแล้ว แต่ในสำนวนยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ แต่จะเรียกทั้งสองฝ่ายเข้ามาให้การอีกครั้ง ซึ่งยังไม่ได้ระบุวันที่ชัดเจน เนื่องจากญาติผู้ตายเพิ่งจัดพิธีทางศาสนาแล้วเสร็จ....