จากกรณีน.ส.เอ(นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ผู้ปกครองด.ญ.บี อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้นป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง เข้าแจ้งความต่อพ.ต.ท.วิรัตน์ ยอดเสาร์ สว.สภ.เพ ระยองว่าด.ญ.บีถูกครูประจำชั้นใช้ฝ่ามือตบเข้าที่กกหูด้านซ้ายอย่างแรง เพียงแค่ไม่ส่งรายงาน แถมยังตีซ้ำอีก โดยด.ญ.บีให้การทั้งน้ำตาว่า ทำไมต้องรุนแรงขนาดนี้ ถึงขั้นตบประจานเพื่อนร่วมห้อง โดยทางผู้ปกครองยันเอาเรื่องถึงที่สุด เพราะเป็นการกระทำรุนแรงเกินเหตุ ถ้าตีจะไม่ว่าสักคำ แถมบุตรสาวยังป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงินที่ต้องทรมานทั้งกายและใจอยู่แล้ว จึงยอมไม่ได้ เตรียมเข้าตรวจบาดแผลที่รพ.ระยอง เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการแจ้งความต่อไป ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว
ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 28 ก.ค. นายชูกิจ ผลทิพย์ ผอ.โรงเรียนที่ครูประจำชั้นตบเด็กนักเรียน กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนได้รับรายงานแล้ว โดยได้เรียกครูคนดังกล่าวเข้ามาสอบสวนถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยครูได้ยอมรับว่าได้ตบบ้องหูด.ญ.บีจริง แต่เกิดจากความโมโหจึงพลั้งมือไป โดยไม่ได้ตั้งใจกระทำลงไป จึงขอรับผิดและขออภัยทางเด็กและผู้ปกครองด้วย ขณะนี้โรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อรายงานไปยังเทศบาลตำบลเพ ต้นสังกัดของโรงเรียน เพื่อหาข้อสรุปต่อไป เกี่ยวกับบทลงโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายไพรัต อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเพ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทางโรงเรียนสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ผิดก็ว่าไปตามผิดถูกก็ว่าไปตามถูก ต้องไม่เข้าข้างกันเด็ดขาด เพราะหากเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริงก็ถือว่าไม่เหมาะสม การลงโทษลักษณะนี้ถือว่ารุนแรงและไม่ควรจะเกิดขึ้นกับคนเป็นครู และเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ด้วยจึงถือว่าผิด
ส่วนน.ส.เอ(นามสมมุติ) อายุ 35 ปี มารดาด.ญ. เปิดเผยว่า จากการที่พาลูกเข้าตรวจร่างกายที่รพ.ระยอง เบื้องต้นแพทย์ลงความเห็นว่ามีร่องรอยฟกช้ำที่กกหูซ้ายจากการถูกของแข็งกระแทก ส่วนอาการปวดหูของบุตรสาว ต้องรอดูอาการก่อนว่าแก้วหูอักเสบหรือไม่ ซึ่งหลังจากตรวจร่างกายบุตรสาวมีอาการปวดหูทั้งคืน จึงประคบด้วยน้ำอุ่น ซึ่งอาการก็ทุเลา แต่ก็ยังมีอาการหูดับอยู่ สำหรับความคืบหน้าเรื่องคดีก็ปล่อยให้ทางตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอน ซึ่งทางโรงเรียนได้นัดให้เข้าพบในวันทำการเพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น และทางตนจะขอสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุแบบนี้กับเด็กคนอื่นอีก เพื่อปกป้องนักเรียนทุกคน จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่ออารมย์ของครูรายนี้อีก
พ.ต.ท.วิรัตน์ ยอดเสาร์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่ามีการลงโทษเด็กจริงตามที่ได้รับแจ้ง ซึ่งเตรียมที่จะเรียกทางครูประจำชั้นเข้ามาพบเพื่อสอบสวน เกี่ยวกับเรื่องถูกแจ้งความไว้ ซึ่งจะมีการประสานไป ส่วนเรื่องของคดีก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริงและตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป