สองผัวเมียชาวบุรีรัมย์มุมานะจากอดีตลูกจ้าง สู่เถ้าแก่ร้านข้าวมันไก่ขึ้นชื่อของ อ.สตึก ลูกค้าแน่นร้านทุกวันทั้งมียอดสั่งใส่กล่องนับร้อยกล่องจนทำไม่ทัน ยอดขายวันละกว่า 1 หมื่นบาท นอกจากจะมีสูตรเด็ดน้ำจิ้มที่ถูกปากลูกค้าแล้ว เคล็ดลับที่ดึงดูดใจลูกค้าคือความเป็นกันเอง และคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ
วันที่ 20 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสาคร งามสะพรั่ง อายุ 45 ปี และนางจุฑาทิพย์ งามสะพรั่ง อายุ 43 ปี สองสามีภรรยาชาวอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ที่มุมานะขยันอดทนจนสามารถพลิกผันตัวเองจากอดีตลูกจ้างอยู่ที่กรุงเทพมหานคร กลับมาเปิดร้านขายข้าวมันไก่เป็นของตัวเองอยู่ข้างคิวรถ บขส.ใหม่อำเภอสตึก ชื่อร้าน "กินนี่ ข้าวมันไก่-ไก่ทอด" ตั้งแต่ปี 2540 หรือเมื่อ 20 ปีก่อน ปัจจุบันกลายเป็นเถ้าแก่ร้านข้าวมันไก่ที่ขึ้นชื่อของอำเภอสตึก มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนแน่นร้านทุกวัน ทั้งยังมียอดสั่งใส่กล่องวันละกว่า 100 - 200 กล่องจนบางวันทำแทบไม่ทัน ส่งผลให้มียอดขายวันละกว่า 10,000 บาท โดยหัวใจสำคัญของที่ร้าน คือ น้ำจิ้มรสเด็ดสูตรเฉพาะไม่เหมือนใคร ซึ่งจะมีให้ลูกค้าเลือกทานได้ 2 แบบ คือ น้ำจิ้มซอสและน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว เพราะมีรสเข้มข้นถูกปากไม่มีกลิ่นหืนของพริกสด นอกจากนั้นยังมีการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะไก่ที่นำมาทำข้าวมันไก่ต้ม หรือข้าวมันไก่ทอด จะต้องเป็นไก่ตอนคัดไซด์ซึ่งเจ้าของร้านจะไปเลือกซื้อเอง โดยร้านข้าวมัน "กินนี่" ดังกล่าวจะเปิดตั้งแต่ 07.00 - 16.00 น. แต่ส่วนมากจะขายหมดก่อนเวลาเกือบทุนวัน
นางจุฑาทิพย์ งามสะพรั่ง บอกว่า เมื่อก่อนตนและสามีเป็นลูกจ้างร้านข้าวมันไก่แห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ ทำอยู่หลายปีก็อยากจะกลับมาอยู่ที่บ้าน จึงตัดสินใจกลับมาเปิดร้านข้าวมันไก่ของตัวเอง เพราะต่างก็มีประสบการณ์ที่เคยเป็นลูกจ้างมาก่อน และมาช่วยกันคิดค้นสูตรน้ำจิ้มเป็นของตัวเอง ซึ่งช่วงแรกก็ยอมรับว่าขายไม่ค่อยดีแต่ก็ไม่ท้อ แต่พอเริ่มมีคนรู้จักและบอกกันปากต่อปากก็ขายดีขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีรายได้เฉลี่ยวันละกว่า 10,000 บาท ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้ที่มั่นคงแล้ว ยังสร้างความภูมิใจให้กับตนเองและสามีด้วย