จากกรณีศาลมีคำตัดสินคดีเบนซ์ชนฟอร์ดให้นายเจนภพ วีรพร จำคุก เจนภพ 2 ปี 6 เดือน ข้อหาขับโดยประมาทเป็นเหตุเสียชีวิต จาก 5 ปี เนื่องจากจำเลยรับสารภาพ
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. ด้านนางสาวนงครัตน์ รุ่งแสง น้องสาว นายกฤษณะ ถาวร ผู้เสียชีวิตพร้อมทนายปริญญา สนิทชน หลังฟังคำพิพากษาแล้วเสร็จ หลังเดินทางลงให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ทนายปริญญา กล่าวว่า ในส่วนของข้อหายาเสพติดและข้อหามึนเมานั้นศาลตัดสินให้ยกฟ้อง เนื่องจากว่าพยานหลักฐานโจทย์รับฟังหลักฐานได้ไม่เพียงพอ รับฟังได้ไม่พอในส่วนของพนักงานสอบสวนมีพฤติการณ์น่าสงสัยอยู่บ้างมีการแจ้งการตรวจเลือดที่ไม่ชอบ ซึ่งถือว่าท่านยกฟ้องในการสืบสวนที่ไม่ชอบ ดังนั้น ฟ้องโจทย์จึงไม่ชอบแต่ในส่วนของพนักงานอัยการสืบประกอบครบถ้วนทุกประเด็นคงมีแต่ในชั้นสอบสวนที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยซึ่งอาจจะเป็นการแจ้งข้อการหาไม่ชอบเท่านั้นส่วนในข้อหาหลักฐานนั้นญาติผู้เสียชีวิตได้มาเป็นโจทย์ร่วมในข้อหาเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก เต็มตามอัตรา 5 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพและมีการเยียวยาในส่วนนี้ศาลจึงมีคำพิพากษาลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือนแต่ไม่รอลงอาญา
ด้าน น.ส.นงครัตน์ กล่าวว่า จำเลยก็เป็นคนที่มีจิตสำนึกแต่เราก็ต้องยืนยันเลยว่าการลงโทษก็ยังคงต้องมีอยู่ ทั้งนี้ ศาลก็ได้เลงเห็นว่าการขับรถ 257 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นมันไม่มีทางที่จะมีการสูญเสียเล็กน้อย มันต้องสูญเสียหนักขึ้นขั้นเสียชีวิต ศาลก็ได้เห็นว่าการขับรถไม่ระวังก็ไม่จำเป็นต้องรอลงอาญาเสมอไป และต่อให้เขามีจิตสำนึกยังไงก็ต้องลงโทษตามกฎหมาย และครอบครัวเราพอใจ
ด้าน ทนาย วิเชียร ชุบไธสง พร้อม น.ส. กัญจนา ฮ้อแสงชัย น้องสาว (เบล) นางสาวธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย (น้องเบนซ์) ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ในส่วนของคำพิพากษาในเรื่องที่จำให้คำรับสารภาพ 3-4 ข้อหานั้นศาลพิพากษา นาย จำคุก เจนภพ 2 ปี 6 เดือน ข้อหาขับโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือน และให้เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ไม่รอลงอาญา ส่วนข้อหาอื่นไม่ว่าจะเป็น เสพหรือเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตายศาลยังมีเหตุอันควรสงสัยในส่วนของงานสอบสวน จึงพิพากษาและยกฟ้องตรงนั้นไป
ด้าน น.ส. กัญจนา กล่าวว่า ตนขอขอบคุณทุกๆภาคส่วนที่คลี่คลายคดีนี้ถือว่ายอมรับในคำพิพากษาของศาลอยู่แล้วซึ่งก็ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เรื่องสู้คดีนั้นก็ให้เป็นไปตามขบวนการของทนายความ เชื่อว่าการที่มีผู้กระทำผิดนั้นมันต้องได้รับบทลงโทษเป็นธรรมดาส่วนจะพอใจไม่พอใจมากน้อยเพียงใดก็ต้องแล้วแต่บุคคล แต่ในเรื่องของครอบครัวนั้นตั้งแต่เกิดเรื่องต้องชี้แจ้งว่าเราไม่ได้มีความโกรธแค้นอะไร เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำผลที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็เกิดจากผู้กระทำผิดเราไม่ได้มีความไปคาดหวังอะไร จริงๆแล้วสภาพจิตใจต้องดูแลกันอย่างใกล้ชิดอย่างตัวคุณแม่ก็ยังเข้าออก รพ.อยู่บ่อยๆซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ครอบครัวต้องเสียใจที่เสียคนในครอบครัวไป
ด้านทนาย วิเชียร กล่าวอีกว่าเราอย่างจะเห็นแนวบรรทัดฐานกรณีที่เมาแล้วขับและไปทำความเสียหายให้แก่ผู้อื่นจนเสียชีวิตและไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ทำการทดสอบที่ผ่านมายังไม่มีแนวบรรทัดฐานที่ไม่ยอมเพราะอะไรศาลจะฟังแล้วลงโทษได้อย่างไรความจริงเราก็คาดหวังคดีนี้ว่าจะให้เป็นมาตรฐานในกรณีที่เจ้าหน้าที่หรือว่าพนักงานสอบสวนขอตรวจสารเสพติดหรือว่าแอลกอฮอล์
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้าน นายเจนภพ วีรพร ได้มีการยืนประกันตัว ในวงเงิน 2แสนบาท ก่อนที่จะเดินทางกลับพร้อมครอบครัวโดยไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อมวลชน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
