ผู้เสียหายประมาณ 30 คน เข้าเเจ้งความว่า ถูกบริษัทเเห่งหนึ่ง ในความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
วันที่ 18 ก.ค. 60 นางสาวรัมภา แซ่จิว หนึ่งในผู้เสียหาย เข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ให้ดำเนินคดีกับผู้บริหารบริษัทเเห่งหนึ่ง ในความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
โดยเมื่อราวเดือน พ.ค. 60 ผู้เสียหายราว 800 คน ได้เข้าไปสมัครเป็นพรีเซ็นเตอร์ โพสต์สินค้าของบริษัทที่เป็นน้ำดื่มและยาสีฟัน โดยถ่ายภาพคู่กับสินค้า เเล้วนำไปโพสต์ลงในสื่อออนไลน์ ในเฟซบุ๊ก ในไลน์ และในอินสตาแกรม วันละ 2 ครั้ง และจะได้เงินเดือนละ 1-2 หมื่นบาท โดยจะต้องเสียเงินรายละ 1-2 หมื่น เป็นเงินค้ำประกัน
โดยเซ็นสัญญาทำงานเป็นเวลา 1 ปี หลังจากนั้นก็เข้าอบรมเข้าทำงาน ได้รับเงินเดือน 2-3 เดือน จากนั้นบริษัทก็งดจ่ายเงินเดือนโดยอ้างว่าบริษัทขาดทุน จึงเปลี่ยนมาเป็นให้สมาชิกขายสินค้าแทน โดยต้องขายน้ำดื่มให้ได้เดือนละ 30 แพค ยาสีฟันเดือนละ 30 หลอด
อีกส่วนหนึ่งทางบริษัทได้ออกอุบายให้เหยื่อมาร่วมลงทุนเปิดศูนย์จำหน่ายสินค้าตามจังหวัดต่างๆ โดยลงทุนรายละ 1 ล้านบาท และจะได้เงินปันผลคืนเดือนละ 2 แสนบาท แต่กลับได้เงินคืนเพียง 2 เดือนเท่านั้น มีผู้หลงเชื่อประมาณ 20 ราย
และบริษัทอ้างมีปัญหาขาดทุน หากไม่ต้องการร่วมงานหรือทำงานต่อก็จะคืนเงินประกันและเงินลงทุนให้ แต่ขณะนี้พบว่าบริษัทที่อยู่ในซอยรามคำแหง 36/1 ย่านหัวหมาก ได้ปิดบริษัทหนีไปแล้ว
วันนี้ผู้เสียหายประมาณ 30 คนจึงรวมตัวกันมาแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เบื้องต้นพบความเสียหายประมาณ 40 ล้านบาท โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไว้เพื่อเสนอเรื่องต่อผู้บังคับบัญชาต่อไป