ญาติสาววัย 16 ที่ถูกเพื่อนชายลวงไปข่มขืน เปิดเผยหลักฐานการแชทของผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน เผยยังไม่สำนึก ยังกล่าวอ้างว่าถึงยังไงฝ่ายชายก็ไม่อับอาย แถมยังได้เปิดซิงผู้เสียหายด้วย ญาติพร้อมยื่นหลักฐานให้พนักงานสอบสวน ด้านเหยื่อสาวเผยข้อความดังกล่าวยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับตนเองกับครอบครัว วอนนางปวีณา หงสกุล เข้ามาช่วยเหลือ
จากกรณี น.ส.นิด (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาวบ้านต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ถูกเพื่อนหนุ่มคือนายนัน (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ล่อลวงไปข่มขืนในป่า ซึ่งแม่ของน.ส.นิดพาลูกสาวไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ช่องเม็ก ต.ช่องเม็ก เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 14 ก.ค. นายสุครีบ สุธรรมวิจิตร อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้านคำลือชา ม.9 ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี พร้อมด้วยนางวิลัย อายุ 42 ปี และนายสมปอง อายุ 45 ปี พ่อและแม่ของผู้เสียหาย นำหลักฐานข้อความการแชทเฟซบุ๊กของนายนัน ที่แชทพูดคุยกับน.ส.ใหม่ (นามสมมติ) เพื่อนของน.ส.นิดมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว
โดยเป็นข้อความที่พูดคุยระหว่างนายนัน และน.ส.ใหม่ลักษณะว่านายนันพยายามสอบถามถึงท่าทีของน.ส.นิด และอยากให้น.ส.นิด ยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหากรับไม่ได้น.ส.นิดก็จะอับอายต่อสังคมต่อไป ให้เลือกเอาว่าจะเอาแบบไหน และหากเกิดว่าน.ส.นิดตั้งท้องขึ้นมา ตนก็จะไม่รับผิดชอบ จะรับเอาแต่ลูก แต่จะไม่ยอมรับน.ส.นิด เพราะไม่ได้รักแล้ว และข้อความที่นายนันระบุว่านายนัน เป็นผู้ชายยังไงก็ไม่อาย อีกทั้งยังได้เปิดซิงน.ส.นิด ไปแล้วอีกด้วย
นายสุครีบ กล่าวว่า จากการดูข้อความดังกล่าวแล้ว ทางญาติไม่พอใจที่นายนันกล่าวลักษณะเช่นนั่น ซึ่งนอกจากจะไม่สำนึกในการกระทำแล้ว ยังเป็นการเยาะเย้ยสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้เสียหายอีกด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทางญาติของนายนัน ก็มาข่มขู่ และยังมาพูดคุยโอ้อวดให้กับกลุ่มเพื่อนๆ ของผู้เสียหายฟังอีก ซึ่งหลักฐานการแชทดังกล่าวตนจะส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ช่องเม็ก เพื่อเป็นอีกหลักฐาน
ด้าน น.ส.นิด กล่าวถึงข้อความดังกล่าวว่า เป็นสิ่งที่สร้างความเจ็บปวดให้กับตนเอง และครอบครัว ไม่คิดจะพูดคุยหรือเจรจากับนายนัน เพราะนายนันใช้กำลังข่มขืนตนเอง ซึ่งก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และยังมีความหวังว่ามูลนิธิของคุณปวีณา หงสกุล จะเข้ามาให้การช่วยเหลือทางคดีอีกทาง เพราะที่บ้านต่างก็ไม่มีความรู้ และความสามารถที่จะดำเนินการทางกฎหมาย
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ช่องเม็ก ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และรวบรวมหลักฐาน และจะนำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายไปสอบสวนร่วมกับพนักงานอัยการจังหวัด ในวันที่ 17 ก.ค. นี้อีกครั้ง ก่อนจะสรุปสำนวนเพื่อส่งอัยการฟ้องดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ยังมีรายงานอีกว่านางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ทราบข่าวและโทรศัพท์มากำชับคดีโดยตรงกับทางพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินการให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายให้ถึงที่สุด เพราะยังถือว่าเป็นเยาวชนกันทั้งคู่