ที่วัดแสงดาว ตำบลปากโทก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พระอธิการเทพฤทธิ์ มหาวิริโย เจ้าอาวาสวัดแสงดาว นำพระลูกวัดมาออกกำลังกายด้วยการพัฒนาวัดเก็บกวาดลานวัดให้สะอาด โดยเฉพาะบริเวณ ด้านหน้าศาลาการเปรียญ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของ "ศาลพระภูมิ พระพรหม ศาลเจ้าที่ของวัด" เก่าแก่ดั่งเดิมที่อยู่คู่กับวัดมาตั้งแต่สร้างวัด ที่ชาวบ้านร่วมกันวัดพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชุมชน ด้วยการตกแต่งด้วยดอกไม้ กล้วยไม้และ รูปปั้นสัตว์ต่างๆ อย่างสวยงาม
ทั้งนี้ ศาลพระภูมิฯ นี้ ไม่เหมือนกับวัดอื่นๆ เพราะมีเสาขนาดใหญ่ และสูงถึง 5 เมตร เส้นรอบวงเสาปูนซีเมนต์กลมประมาณ 1 เมตร ผู้ที่เข้ามาภายในวัดจะพบเห็นความสวยงามสะดุดตาทุกครั้งที่แวะเวียนกันมาวัด และจะนิยมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ส่งต่อบอกกล่าวความสวยงามและแปลกตากันในสื่อสังคมออนไลน์ของชาวจังหวัดพิษณุโลกอยู่ในขณะนี้
พระอธิการเทพฤทธิ์ มหาวิริโย เจ้าอาวาสวัดแสงดาว เปิดเผยว่า ในช่วงปี พ.ศ.2530 หลวงพ่อสุเทพ โชติโย อดีตเจ้าอาวาสวัดแสงดาว (มรณภาพ พ.ศ 2534) พระสงฆ์และชาวบ้านตำบลปากโทก ได้ช่วยกันสร้างศาลาการเปรียญใหม่ เป็นอาคารปูน 2 ชั้น จนสร้างเสร็จ ในปี พ.ศ. 2536 จึงทำให้ ศาลพระภูมิฯ ศาลเก่าที่มีอยู่เดิม อยู่ต่ำกว่าชั้น 2 ชาวบ้านที่เดินไปมาบนศาลาการเปรียญ เกิดความไม่สบายใจ ที่ต้องเดินไปมาอยู่สูงกว่าศาลพระภูมิฯเก่า เนื่องจาก ศาลพระภูมิฯ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดที่อยู่คู่กับชุมชนมานานตั้งแต่ในอดีต หากจะมีพิธีหรือกิจกรรมใดๆภายในวัด ชาวบ้านก็จะต้องมากราบไหว้บอกกล่าวก่อนอยู่เสมอ
ดังนั้นกรรมการวัดร่วมกับผู้อาวุโสภายในหมู่บ้าน จึงได้หารือกันจนมีมติ ร่วมกันปรับปรุง ศาลพระภูมิฯ เพิ่มเติมจากเดิม ด้วยการตกแต่งทาสีทอง ปั้นพระพรหมสี่หน้าเพิ่ม ตกแต่งช่อฟ้าใบระกา ให้ดูสวยงาม แล้วยกเสาสูงจากพื้นดินเดิมประมาณ 5 เมตร จนทำให้พื้นของศาลพระภูมิฯ อยู่สูงกว่า พื้นของศาลาการเปรียญ จนเป็นที่พอใจของชาวบ้าน ไม่ต้องกังวลใจที่ต้องเดินข้ามสูงกว่า ศาลพระภูมิฯในช่วงแรกอีกต่อไป.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
