แฉนาที “อริส แม็กซิม” ใช้เล่ห์เหลี่ยมแกล้งเป็นลม ขอเข้าห้องน้ำ ทิ้งหลักฐานลงชักโครก

แฉนาที “อริส แม็กซิม” ใช้เล่ห์เหลี่ยมแกล้งเป็นลม ขอเข้าห้องน้ำ ทิ้งหลักฐานลงชักโครก

11 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น.ฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผอ.ศพดส.น.) พล.ต.ต.วัชรพงศ์ ดำรงศรี ผบก.น.1 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.ทวีวงศ์ ดิษฐแย้ม รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิศมัย รอง ผกก.สส.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.รัฐชยุตม์ วัชรโกมลมาศ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธ์รัตน์ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร สว.งานสายตรวจ 1 บก.สปพ พ.ต.ต.ธีรภัทร คุปตานนท์ สว.สส.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ต.ภาคิน ไกรกิตติชาญ สว.สส.สน.ห้วยขวาง และชุดสืบสวนสน.ห้วยขวาง ร่วมกันแถลงจับกุมน.ส.อาริสา หรืออริส อายุ 32 ปี อดีตนางแบบแม็กซิม บุคคลตามหมายจับศาลอาญาที่ 1534/2560 ลงวันที่ 5 ก.ค.60 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีหรือค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น, เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, ชักจูง ยุยงส่งเสริมให้เด็กกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด ๆ"

พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง ร่วมกับสายตรวจ 191 ได้ส่งสายลับแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มไลน์ที่มีการลักลอบค้าประเวณี ก่อนขยายผลจนทราบว่า น.ส.อาริสา หรือผู้ที่ใช้ชื่อในการติดต่อในแอพพลิเคชั่นไลน์ว่า "อริส" มีพฤติกรรมค้าประเวณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี สายลับจึงได้เข้าติดต่อเพื่อล่อซื้อเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จาก น.ส.อาริสา ภายหลังได้ส่งรูปหญิงสาวหน้าตาดีซึ่งเป็นเด็กและเยาวชนจำนวนหลายคนเพื่อให้สายลับได้เลือก หนึ่งในนั้นคือ น.ส.เอ (นามสมมุติ)

จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.เอ อายุเพียง 16 ปี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการประชุมวางแผนเพื่อล่อซื้อประเวณี โดยส่งตำรวจปลอมเป็นลูกค้า และโอนเงินไป 15,000 บาท พร้อมทั้งนัดเจอที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านเหม่งจ๋าย จนกระทั่งได้รับการติดต่อจาก น.ส.เอ ว่าเป็นเด็กที่ถูกส่งมาจาก น.ส.อาริสา หรือ อริส เพื่อมีเพศสัมพันธ์กันตามที่ได้ตกลงกันไว้ จากนั้นได้เดินทางออกจากร้านอาหารดังกล่าว เพื่อไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ถนนประชาอุทิศ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังตามจุดต่างๆ ของโรงแรม ไว้ล่วงหน้าจึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าช่วยเหลือ น.ส.เอ ก่อนนำตัวมา สน.ห้วยขวาง เพื่อสอบปากคำและรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับ น.ส.อาริสา พร้อมทั้ง นำตัว น.ส.เอ เข้าสู่กระบวนการให้การคุ้มครองตามกฎหมาย พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ พ.ศ.2560 ที่บ้านเกร็ดตระการ จ.นนทบุรี

จากการสอบถาม น.ส.เอ แจ้งว่าได้รับเงินค่าตัวจาก น.ส.อริส จำนวน 7,000 บาท เพื่อให้มาค้าประเวณี โดย น.ส.อาริสา ได้หักค่านายหน้าไป 8,000 บาท จากจำนวน 15,000 ที่สายลับได้โอนเงินไปให้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวมรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนสามารถขออนุมัติหมายจับ ตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับกุมในคดีค้ามนุษย์ที่ สน.บางรัก เมื่อเดือนมกราคม ปี 2559 คดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์ โดยศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกแล้ว 7 ปี นอกจากนี้ยังเคยเป็นนางแบบนิตยสารแม็กซิม เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา


ต่อมาทราบว่า น.ส.อาริสา จะปรากฏตัวที่บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง จึงได้บูรการกำลังประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. (191) และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จนสามารถจับตัวคนร้ายได้ แต่ระหว่างถูกจับกุมน.ส.อาริสา ได้ทำทีแกล้งเป็นลมแล้วขอเข้าห้องน้ำก่อนถอดซิมโทรศัพท์ทิ้งซักโครกไป ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ยอมให้ความร่วมมือ อยู่ระหว่างการสอบปากคำ จึงได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนอีกคดีศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศบาห์เรนว่า มีหญิงไทยถูกบังคับให้ไปค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรนในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.59 พฤติการณ์ส่วนใหญ่มักถูกล่อลวงทำสัญญาเป็นหนี้ 200,000 บาท แล้วบังคับค้าประเวณี พร้อมกับยึดหนังสือเดินทางและควบคุมตัวไว้ไม่ให้หลบหนี จึงขอให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสืบสวนสอบสวนนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสืบสวนสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ เครือข่ายนี้จำนวน 6 คน ก่อนหน้านี้ถูกจับกุมไปแล้ว 3 คน อยู่ระหว่างการหลบหนี 3 คน ทราบชื่อคือ น.ส.อภิญญา ปิดตานัง หรือมาม่าซังต่าย ผู้ต้องหาในคดีนี้ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 734/2560 ลงวันที่ 22 มี.ค.60 ทำหน้าที่เป็นผู้ชักชวนหญิงสาวที่ต้องการค้าประเวณีเมื่อตกลงทำสัญญาแล้วจะเป็นคนไปรับไปพักที่โรงแรมที่บาร์เรน ก่อนที่จะถูกยึดหนังสือเดินทางและกักขังเอาไว้ ก่อนที่ตำรวจบาร์เรนจะช่วยเหลือเหยื่อมาได้ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ประสานการปฏิบัติกับ บช.น. ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหามาโดยตลอด

ต่อมา กก.สส.4 บก.สส.บช.น. ได้บูรณาการการปฏิบัติร่วมกับงานสายตรวจ 3 กก.สายตรวจ บก.สปพ. และ บก.ภ.จว.ตราด สามารถจับกุมตัว น.ส.อภิญญา ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้ที่เกาะช้าง จ.ตราด หลังเดินทางกลับจากต่างประเทศได้ 1 ปีที่ผ่านมา หลบหนีหมายจับมาทำอาชีพเป็นแม่เล้าค้าประเวณีบริเวณดังกล่าว จากการสอบสวนยังให้การปฏิเสธ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบก่อนนำตัวส่งให้ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


แฉนาที “อริส แม็กซิม” ใช้เล่ห์เหลี่ยมแกล้งเป็นลม ขอเข้าห้องน้ำ ทิ้งหลักฐานลงชักโครก


Cr.khaosod

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์