คืบหน้าการเสียชีวิตของนางสาวเอลิส เดลมานจ์ ชาวเบลเยี่ยม วัย 30 ปี ที่ถูกพบเป็นศพในลักษณะผูกคอตายในป่าที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2560 ที่ผ่านมา ซึ่ง ทาง จนท.วินิจฉัยว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ทางครอบครัวยังติดใจในสาเหตุการตาย เพราะไม่เชื่อว่ามีเหตุจูงใจในการฆ่าตัวตาย ทั้งนี้ถือว่าเป็นชาวต่างชาติรายที่ 7 ที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำบนเกาะเต่า
ซึ่งมีรายงานว่าผู้ตายเลื่อมใสลัทธิความเชื่อลัทธิหนึ่งของอินเดียชื่อสัตยา ไสบาบา (Sathya Sai Baba) ที่มีคำสอนเกี่ยวกับโลกหลังความตาย การสะกดจิต และการรักษาโรคโดยใช้จิต มีนายรามัน อันเดรียส สัญชาติเยอรมัน เป็นเจ้าลัทธิ มีบ้านพักบนเกาะพะงัน
จากการตรวจสอบพบว่านายรามัน อันเดรียส มีชื่อจริงว่า รามัน เบอเกอร์ โดยก่อนจะเดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา เคยพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักบนเกาะพะงัน ก่อนที น.ส.เอลิสจะเสียชีวิตก็ได้มาพักอยู่ด้วยกัน
ทั้งนี้มีกลุ่มสมาชิกอธิบายถึงลัทธิ ไสบาบา ด้วยว่า เป็นลัทธิที่สอนในเรื่องของจิตวิญญาณ ความเป็นไปของชีวิต โดยผู้ที่จะเข้าร่วมกลุ่ม จะต้องปฏิบัติตามกฎ 3 ข้อของกลุ่ม คือ กลุ่มลัทธิดังกล่าวจะเป็นกลุ่มที่ทำกิจกรรมเป็นความลับ ห้ามสมาชิกในกลุ่มนำข้อมูลของกลุ่มไปเผยแพร่ให้คนนอกรับรู้ โดยสมาชิกในกลุ่มจะมีนายรามัน เป็นคนคอยแนะนำให้ปฏิบัติตัว
ลัทธินี้เป็นลัทธิที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก จะมีสมาชิกจากหลากหลายศาสนา บนเกาะพะงันมีสมาชิกอยู่ไม่มาก แต่จะไม่อยู่ประจำจะเดินทางไปมาสลับกันไป ซึ่งจากการสอบถามทางสมาชิกของกลุ่มยืนยันว่า ไม่มีพฤติกรรมเรื่องเซ็กส์ แต่เป็นการทำกิจกรรมประเภทชำระจิตใจ
อย่างไรก็ตามตำรวจได้ข้อมูลว่าผู้ตายมีเพื่อนที่รู้จักสนิท นอกจากนายรามัน แล้วยังมีเพื่อนหญิงชาวต่างชาติอีกคน ที่อาศัยอยู่บนเกาะพะงัน และเป็นคนไปส่งผู้ตายขึ้นเรือไปเกาะเต่า โดยตำรวจจะเร่งติดตามตัวมาสอบถามอีกครั้ง เพื่อหาปมเหตุการตายของสาวเบลเยียมคนดังกล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
