เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 2 กรกฎาคม ร.ต.ท.กมลเทพ สมบัติ รองสว.(สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุจากเจ้าหน้าที่ทหารว่า มีหญิงสาวถูกคนพยายามข่มขืน มาขอความช่วยเหลือ บริเวณทางเข้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ถ.รามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. จึงรุดพร้อมด้วย พ.ต.ท.อนันต์ วรสาตร์ สวป.สน.บางเขน และเจ้าหน้าที่สายตรวจสน.บางเขน ที่เกิดเหตุพบหญิงสาวสภาพเสื้อผ้ามอมแมม เนื้อตัวสั่นเทา จึงพามาสอบสวนที่ สน.บางเขน
จากการสอบสวนน.ส.แอ๋ม (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ชาวจ.สุโขทัย ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ให้การว่า ตนเดินทางมาจากบ้านเกิดจ.สุโขทัย ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อมาสอบเข้ารับเป็นพนักงานราชการ ที่ศูนย์การกำลังสำรอง ถนนวิภาวดี-รังสิต โดยระหว่างนี้ตนได้เช่าห้องพักอยู่ที่ย่านสายไหม เพื่อรอประกาศผลสอบวันที่ 3 กรกฎาคม แต่วันนี้ (2 ก.ค.) เมื่อเวลา 02.00 น. ญาติโทรศัพท์มาแจ้งว่าแม่ป่วย ตนจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านทันที ซึ่งตนได้โบกรถแท็กซี่จากปากซอยสายไหม 63 เป็นรถแท็กซี่สีเขียว ไม่แน่ใจว่าคาดเหลืองด้วยหรือไม่ หมายเลขทะเบียนจำได้แค่ 6240 กรุงเทพมหานคร โดยให้ไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อรอซื้อตั๋วขึ้นรถกลับในช่วงเช้า
"ขณะที่กำลังโดยสารมาหนูนั่งเบาะหลังเยื้องกับคนขับ เมื่อถึงบริเวณใต้สะพานลอยคนข้ามใกล้ทางเข้าสนามกอล์ฟกองทัพบก ถ.รามอินทรา ทันใดนั้นคนขับรถแท็กซี่อายุประมาณ 50 ปี ได้จอดรถ และปรับเอนเบาะนอนก่อนจะปีนข้ามมาด้านหลัง แล้วใช้กำลังพยายามถอดเสื้อหนูออก และรื้อค้นในกระเป๋าสะพายของหนูด้วย โดยหยิบเงินไป 2,000 บาท หนูกลัวและตกใจมาก แต่ก็พยายามต่อสู้ขัดขืน และเปิดประตูหนีออกมาได้ ก่อนจะวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทหารที่ยืนห่างออกไปพอสมควร ระหว่างนั้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวก็ขับหลบหนีไป" น.ส.แอ๋ม กล่าว
ด้านร.ต.ท.กมลเทพ กล่าวว่า จุดเกิดเหตุอยู่ใต้สะพานลอยคนข้ามซึ่งค่อนข้างมืดและเปลี่ยว ประกอบกับแถวนั้นไม่มีใครเดินผ่านเลย ป้อมทหารก็อยู่ไกล คนขับแท็กซี่จึงกล้าลงมือ เบื้องต้นได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายว่า ถูกทำร้ายไว้เป็นหลักฐาน แต่ผู้เสียหายอยากกลับไปหาแม่ให้เร็วที่สุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจึงช่วยกันออกเงินค่ารถให้แล้วพาไปที่ขนส่งหมอชิต 2 ส่งตัวกลับภูมิลำเนา ทั้งนี้ได้ประสานฝ่ายสืบสวนไล่กล้องวงจรปิดหาตัวคนขับแท็กซี่มาสอบปากคำต่อไป