เด็ก 11 ขวบ รับใช้ตะเกียบลนไฟจี้ตัวเองแก้เครียด-วางยาคนในบ้าน ผสมน้ำยาล้างห้องน้ำ-ยากันยุงให้กิน แม่เผยเครียดมาก แม้จะนอนยังต้องคอยระวังตัว กลัวฆ่าพี่-น้อง
เป็นข่าวที่ทำเอาสังคมแทบไม่อยากจะเชื่อว่า เด็กชายวัยเพียง 11 ขวบ ที่ถูกพบหนีออกจากบ้านในสภาพร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล จะเป็นฝีมือของเจ้าตัวเองทั้งร่องรอยตามร่างกายที่พบ ทั้งการโกหกต่าง ๆ นานา ว่าพ่อแม่ตายไปแล้ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพบว่าพ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ และคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ขอประกาศเลยว่า ไม่สามารถจะรับลูกคนนี้กลับมาเลี้ยงได้อีกแล้ว เพราะชอบหนีออกจากบ้าน ทั้งยังทำร้ายคนในครอบครัวด้วยการวางยา จนคุณย่าเสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2560 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานความคืบหน้าเรื่องนี้ โดยส่งนักข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านของน้องเอ เด็กชายวัย 11 ขวบ และได้พูดคุยกับ นายศักดิ์ชาย ยงขามป้อม พ่อน้องเอ ทราบว่าที่บ้านมีลูกทั้งหมด 5 คน โดยมี 1 คนเป็นเด็กพิเศษออทิสติก เดิมทีน้องเออยู่กับคุณย่า และถูกเลี้ยงดูแบบตามใจมาโดยตลอด มักมีพฤติกรรมก้าวร้าว ชอบขโมยของ และชอบเรียกร้องความสนใจ เมื่อถูกขัดใจก็ชอบทำร้ายตัวเอง อีกทั้งครอบครัวก็เพิ่งมาทราบทีหลังว่า น้องเอ เคยวางยาคุณย่าด้วยการนำน้ำยาล้างห้องน้ำผสมให้กิน โดยเจ้าตัวพูดออกมาว่า "แต่ก่อนให้ย่ากินประจำไม่เห็นจะเป็นอะไร" จนกระทั่งคุณย่าป่วยหนักกินไม่ได้อยู่ 3 เดือน ก่อนจะเสียชีวิต
นายศักดิ์ชาย บอกว่า วันหนึ่งน้องเอจะใช้เงินประมาณ 200-300 บาท ถ้าไม่พอก็จะหาลักขโมยกับพี่สาว พ่อก็ต้องเอาไปใช้คืนให้ มันเป็นพฤติกรรมที่ทำแล้วเหมือนได้ใจ เหมือนไม่มีความผิด เพราะเขาเป็นหลานรักของย่า บวกกับความก้าวร้าว ซึ่งตอนมาอยู่กับตนก็มีตีเป็นบางครั้ง ถ้าดื้อมากก็ตี เขาก็เคยรับปากว่าจะไม่หนีออกจากบ้าน แต่ก็ยังหนีหลายครั้งมาก ๆ ตอนนี้จนปัญญาจริง ๆ อยากให้หน่วยงานอื่นรับไปปรับพฤติกรรมก่อน อยู่ด้วยกันก็ลำบาก ไม่รู้ว่าวันไหนเขาจะทำร้ายคนในบ้าน ยอมรับว่าการเลี้ยงเขาเป็นงานที่ยากมาก เพราะเขาไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรมเลย
ขณะที่คุณแม่ของน้องเอ กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องจนเป็นข่าวและเพิ่งรับกลับมาบ้าน เมื่อคืนเขาก็เพิ่งหายออกไปจากบ้านอีก สะเดาะกลอนประตูออกไปตอน ตี 3 พอไม่เห็นเขาเราก็ตกใจ ไปช่วยกันหากับพ่อ สุดท้ายไปเจอแอบอยู่ในห้องที่มีน้องอยู่ด้วย พอเปิดประตูเข้าไปเจอเขา เขาก็พูดว่า "พลาดแล้ว" ซึ่งตนก็สงสัยว่าพลาดของเขานั้นหมายถึงอะไร อย่างไรก็ตาม ตนก็รักเขา กอดหอมมาตลอด แต่ตอนนี้เครียดมาก กลัวว่าลูกจะวางยาตนและลูก ๆ คนอื่น ๆ กังวลมาก ไม่ใช่ไม่รัก แต่ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ถ้าเขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก็น่าจะอยู่ร่วมกันได้
"ตอนนี้ก็ต้องระวังวางยา ระวังทำร้ายพี่สาว เพราะเขาเคยโผล่มากัดนิ้วโป้งเท้าตอนกลางคืน เราก็ต้องคอยระวัง คือนอนไม่ได้นอน ต้องคอยระวังมาก ถ้าเขาเปลี่ยนพฤติกรรมตรงนี้ได้ แม่โอเคเลย ไม่มีปัญหา อย่างน้อยให้รักตัวเอง เริ่มต้นจากรักตัวเอง แล้วก็รักแม่บ้าง รักพี่บ้าง แต่ส่วนมากถามน้องแล้ว แม่ถามน้องทุกวันว่าน้องรักใคร มีรักใครบ้างไหม เขาตอบว่าไม่รักใครเลย"
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับน้องเอ ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงต้องทำร้ายตัวเอง เจ้าตัวตอบว่า ผมเครียด เวลาเครียดจะเอาตะเกียบเหล็กลนไฟมาจี้ตามคอตัวเอง บางครั้งก็ทำกับน้อง ๆ คนในบ้าน ส่วนแผลที่แขนนั้นเกิดจากน้ำร้อน ผมกำลังจะเอาน้ำร้อนราดตัวน้อง แต่น้ำร้อนมันกระเด็นโดนตัวผม ส่วนสาเหตุเป็นเพราะเกิดจากอารมณ์น้อยใจที่คุณแม่ไม่ให้ไปโรงเรียน จนต้องประชดตัวเอง